พรรคก้าวไกล ชี้ วิกฤตของไทย ไม่ใช่เพราะรัฐบาลขาดงบ แต่เกิดจากบริหารผิดพลาด
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการพิจารณางบฯ มีมติให้นำงบประมาณที่ปรับลดได้ เข้างบกลาง ที่เปรียบเสมือนการตีเช็คเปล่าให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เพื่อนำไปแก้ปัญหาโควิด พรรคก้าวไกลได้ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตของไทย ไม่ใช่เพราะขาดงบฯ แต่เกิดจากบริหารผิดพลาด
วันนี้ เพจเฟซบุ๊กก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวข้องกับการที่ กมธ. มีมติให้นำงบประมาณที่ปรับลดได้ เข้างบกลาง ที่เปรียบเสมือนการตีเช็คเปล่าให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีรายละเอียดดังนี้
วิกฤติของประเทศไทย ไม่ใช่วิกฤติขาดงบประมาณ แต่คือวิกฤติจากการบริหารที่ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ตอบสนองต่อประชาชน ดังนั้นทางออกเดียวคือ เอาระบอบประยุทธ์ออกไป ไม่ใช่โอนงบให้เขาเพิ่มอีก 1.6 หมื่นล้าน !
ตลอด 1 ปี 6 เดือน ที่ประเทศไทยเราพบการระบาดของเชื้อโควิด ไม่มีใครปฏิเสธว่านี่เป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่สิ่งที่จะพาประชาชนคนไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตินี้ได้ก็คือการบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพของภาครัฐ
แต่เผอิญว่าโควิดอุบัติขึ้นมาในรัฐบาลสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียพอดี ปัญหาเดิมๆ ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ใต้พรมก็ถึงเปิดขึ้นมาหมด ไม่ว่าจะเป็นระบอบวีไอพี ระบอบอภิสิทธิ์ชน มือใครยาวสาวได้สาวเอา คนตัวเล็กตัวน้อยที่เดือดร้อนแต่ไม่มีปากเสียงทางสังคมกลับถูกเททิ้งบนท้องถนนราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนมนุษย์
วันนี้คนป่วยคนตายนิวไฮ อันที่จริงก็ทำสถิตินิวไฮมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าสถิติจะไปสูงสุดอยู่ที่จุดไหน นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือชีวิตคน! คือชีวิตของเพื่อน ชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง หรือชีวิตของคนรักของใครหลายคน!
นี่คืออาการของระบอบที่เราเรียกว่า "ระบอบกินคน" นำโดยรัฐบาลที่ฉ้อฉล ไร้ความรับผิดชอบ ไร้วิสัยทัศน์ และไม่เห็นหัวประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
เพิ่ม 1.6 หมื่นล้าน เข้างบกลาง พรรคก้าวไกล ชี้ ตีเช็คเปล่าให้นายกฯ
-
พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายละเมิดสิทธิ์สื่อ ประชาชน
-
7 ข้อเสนอของทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้รัฐบาลกู้วิกฤตศรัทธาประชาชน
รัฐบาลมีงบฯ เหลือเฟือ แต่บริหารไม่มีประสิทธิภาพ
ย้ำ! ว่าไม่ใช่เรื่องของ “งบประมาณไม่เพียงพอ”, “ขาดงบประมาณ”, “ชาวบ้านเดือดร้อน” จึงต้องทำให้ กมธ.งบ ’65 ยอมโหวตโอนงบกลางให้ประยุทธ์ไปใช้เพิ่มอีก 1.6 หมื่นล้านบาท
เพราะอะไร? ก็เพราะแท้จริงแล้วรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เองก็มีงบประมาณเหลือเฟืออยู่แล้ว แต่กลับใช้แบบไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความสามารถต่างหาก! เช่น....
- พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว
- ออก พ.ร.บ.โอนงบฯ 88,000 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว
- พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
- งบประมาณประจำปี 63-64 รวมแล้วอีกเกือบ 6.5 ล้านล้านบาท ที่เรายืนยันเสมอว่าต้องรีดไขมันส่วนเกิน ตัดส่วนที่ไม่จำเป็น และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
- และนี่ยังไม่นับเงินนอกงบประมาณที่ถูกหน่วยราชการต่าง ๆ เก็บเอาไว้ ทั้งเปิดเผยทั้งซุกซ่อน รวม ๆ แล้วอีกหลายล้านล้านบาท
ทั้งหมดนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ประเทศไทยให้โอกาสประยุทธ์บริหารงบประมาณเกือบ 6.5 ล้านล้านบาทตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และถ้ารวมสมัยรัฐบาลรัฐประหารตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ก็จะเป็นเม็ดเงินกว่า 20 ล้านล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย แล้วดูผลงานการบริหารจัดการสิ เป็นไงบ้าง?
ทั้งหมดนี้ สังคมเห็นตรงกันแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้งบประมาณไร้ประสิทธิภาพ ออกแบบงบประมาณแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เข้าเป้า ไม่ตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น ฯลฯ ร่ายยาวไปจนถึงนโยบายวัคซีนแทงม้าตัวเดียวจนเป็นวิกฤตมาจนถึงทุกวันนี้
งบเหลือเฟือ แต่บริหารพัง แล้วยังเพิ่มงบให้อีก 1.6 หมื่นล้าน
ย้อนกลับมาสู่คำถามเดิมที่ว่า...ถ้ารู้ว่าบริหารพังพินาศขนาดนี้แล้ว จะโหวตเพิ่มงบอีก 1.6 หมื่นล้านบาทไปเพิ่มเป็นงบกลาง ให้ประยุทธ์บริหารจัดการอีกทำไม ? ในเมื่องบประมาณกว่า 6 ล้านล้านบาทที่ผ่านมา รวมกับงบเงินกู้ที่ขอไป 1.5 ล้านล้านบาท และงบประมาณประจำปี 2565 อีก 3.1 ล้านล้านบาทที่กำลังจะผ่านสภา คือการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ประชาชนไม่เคยได้รับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผู้คนยังรอความตายบนท้องถนน สถิติคนตายพุ่งสูงแบบคุมไม่อยู่ ประเทศไทยก็ยังวนเวียนอยู่ในวิกฤติเหมือนเดิม
ต่อให้มีงบแผ่นดินอีก 10 ปี มี พ.ร.ก.เงินกู้อีก 10 ฉบับ มีงบกลางอีก 1 แสนล้าน ระบอบกินคนนี้ก็พาประเทศไทยออกจากวิกฤตไม่ได้! เพราะตัวระบอบนี้คือวิกฤตในตัวมันเอง!
