โควิดเดลต้า ความท้าทายครั้งใหม่ โควิดศูนย์ราย ของจีน

เป็นที่ทราบกันดีว่า โควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือ โควิดเดลต้า มีความสามารถในการแพร่ระบาดได้สูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งถูกจับตามองโดยองค์การอนามัยโลกมาตลอด ซึ่งปัจจุบันนี้ได้เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิดเดลต้าที่จีนเกิดขึ้น และถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่

ที่ประเทศจีน ถือเอากลยุทธ์ปราบโควิดศูนย์รายเป็นสำคัญ แต่จากการแพร่ระบาดของโควิดเดลต้าในช่วงเดือนกรกฎาคมกว่า 328 ราย ซึ่งนับเป็นยอดที่ใกล้เคียงกับช่วง 5 เดือนของจีนก่อนที่จะมีโควิดเดลต้าหลุดเข้าประเทศ และทำให้เกิดคำถามกับประสิทธิภาพของวัคซีนจีนว่าจะสามารถต้านทานสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ระบาดสูงได้หรือไม่ ?

การแพร่ระบาดเกิดขึ้นเมื่อราวสองสัปดาห์ก่อนในเมืองหนานจิง ทางตะวันออกของจีน เป็นพนักงานทำความสะอาดสนามบิน 9 ราย ติดเชื้อระหว่างที่ทำการตรวจตามปกติ หลักจากนั้นได้แพร่กระจายออกไปอีก 26 เมืองทั่วประเทศจีน รวมถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ในตอนใต้ของหูหนาน รวมไปถึงเมืองหลวงอย่างปักกิ่ง

ทางการจีนตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยการตรวจเชิงรุกจำนวนมาก การรับผู้ป่วยเข้ารักษาทันที การติดตามกลุ่มผู้สัมผัสในวงกว้าง และการกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมโควิดที่ได้ผลดีมาโดยตลอด

ประชากรกว่า 9.3 ล้านคนในหนานจิง ต้องผ่านการตรวจโควิด สามรอบในสองสัปดาห์ และสถานที่ต่างๆ ที่มีการยืนยันพบผู้ป่วยไปเยือน อาทิ โรงภาพยนตร์ , โรงยิม , ร้านอาหาร , บาร์ และห้องสมุด ต่างถูกปิดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ถอดบทเรียน อู่ฮั่นโมเดล สู่การมองอนาคต โควิด-19 ไทยล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

• ย้อนรอยการรับมือ "โควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่กว่างโจว" : 1 เดือน เอาอยู่

• ไขข้องใจ ทำไมโควิดสายพันธุ์เดลต้าติดเชื้อได้ง่ายกว่า ?

มีความกังวลเกี่ยวกับกรณีซูเปอร์สเปรดเดอร์ในการแสดงละครในเมืองจางเจียเจี้ย ซึ่งมีผู้คนหลายพันเข้าร่วม และเหตุเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ที่หนานจิง เป็นผู้ป่วยรายแรกในรอบ 6 เดือน และตรวจพบผู้ป่วยอีก 5 รายที่มีประวัติการเดินทางไปยังจางเจียเจี้ย ส่งผลให้เกิดการล็อกดาวน์ สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดถูกปิดและประชาชนถูกห้ามไม่ให้ เข้า-ออก พื้นที่

ฮวง หยางซ่ง เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสาธารณสุขโลก จากสภาวิเทศสัมพันธ์ของจีน กล่าวว่า ทางการจีนกำลังตอบสนองต่อภัยคุกคามของโควิดเดลต้า ด้วยมาตรการเดิมที่ใช้ในการแพร่ระบาดครั้งก่อน แต่ในรูปแบบที่อัพเกรดขึ้น มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกว่าเดิม และการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งกว่าเดิม

"สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ต่ำลงของแนวทางโควิดศูนย์ราย" หยางซ่ง กล่าว

ฮวง หยางซ่ง แสดงความกังวลต่อประสิทธิภาพวัคซีนจีนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อต้องเจอกับโควิดเดลต้า และเผยว่า "หมายความว่าจีนน่าจะยังอยู่ห่างจากการเปิดพรมแดนสู่โลกอีกหลายเดือน"

แม้ทางการจีนแสดงเจตจำนงในมาตรการที่เข้มงวด บวกกับการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 1,650 ล้านโดส แต่การแพร่ระบาดของคลัสเตอร์หนานจิงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับระดับการป้องกันที่วัคซีนของจีนต่อโควิดเดลต้า

ทางด้านผู้เชี่ยวชาญจีนหลายคน ออกมาให้ความมั่นใจกับสาธารณชนว่าวัคซีนยังคงใช้ได้ผลกับโควิดเดลต้า

เส้า อี้หมิง ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่าการติดเชื้อที่ลุกลามเป็นปรากฏการณ์ "ปกติ" ในขณะที่เน้นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเพียงส่วนน้อยในหมู่ผู้ที่ได้รับวัคซีนทั่วโลก

เฟิง จื่อเจียน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนอีกคน กล่าวเสริมว่า ในขณะที่ระดับภูมิคุ้มกันต่อตัวโควิดเดลต้าอาจต่ำกว่า แต่วัคซีนที่มีอยู่ยังคงให้การป้องกันที่ดีเพียงพอ

ต้องจับตาดูว่าการล็อกดาวน์ซ้ำๆ และมาตรการต่างๆ จะได้ผล และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในระยะยาวหรือไม่ ความอดทนต่อมาตรการดังกล่าวอาจเริ่มลดลงหากรัฐบาลยังคงใช้แนวทางแบบจริงจังจนกว่าจะถึงโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจีนบางคนมองว่าจีนจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิด19 ให้ได้ เฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก

จาง เหวินหง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่โรงพยาบาลหัวซานของเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า วัคซีนที่มีอยู่อาจไม่สามารถกำจัดการติดเชื้อได้ และการแพร่เชื้ออาจเกิดขึ้นได้แม้ว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม

"มีผู้คนจำนวนไม่น้อย และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เชื่อว่าการแพร่ระบาดจะไม่สิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ และอาจต้องอยู่คู่กับโควิดตลอดไป ไม่ว่าเส้นทางใดที่ทางการจีนจะดำเนินไปในอนาคต จะต้องรับประกันได้ว่าผู้คนจะกลับไปสู่ชีวิตปกติ จะกลับไปเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้ และที่สำคัญที่สุดคือต้องปกป้องประชาชนจากความกลัวโควิด19 ได้" จาง เหวินหง เขียนบนเว่ยป๋อของเขา