คุมพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด เพิ่ม 3 จังหวัดใหม่ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ ?

อัดยาแรงสู้โควิด คุม 13 เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ

เริ่มแล้ว ! วันนี้ 20 กรกฎาคม 2564  กับมาตรการคุมเข้ม 13 จังหวัดสีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุด ซึ่ง 10 จังหวัดเดิมก็ได้เพิ่มในการคุมเข้มเรื่องการปิดกิจการร้านค้าในห้างสรรพสินค้าเพิ่มเติม แต่ประเด็นที่สำคัญที่ถูกจับตามองไปยัง 3 จังหวัดใหม่ ที่กลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม คือ ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา หากมองดูโครงสร้างเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดนี้จะเห็นได้ว่าสำคัญมาก ๆ กับเศรษฐกิจไทย เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมหลักของไทย แน่นอนว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจ ชีวิตแรงงานแน่ !

แต่...ก่อนที่จะไปวิเคราะห์ผลกระทบ 3 เมืองอุตสาหกรรม จะพามาทวนอีกครั้งว่า 13 จังหวัดมีอะไรบ้าง ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดที่เพิ่มมา ได้แก่ อยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา

สำหรับบุคคล และกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นเรื่องการงดออกนอกเคหสถาน 6 กลุ่ม ได้แก่

1.เจ้าหน้าที่ทางด้านการสาธารณสุข

2.การขนส่ง เพื่อประโยชน์ด้านอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมัน เชื้อเพลิง ไปรษณีย์ พัสดุ สิ่งพิมพ์ สินค้าเพื่อส่งออก นำเข้า

3.การขนย้ายประชาชน

4.การให้บริการประชาชน

5.การประกอบอาชีพจำเป็น ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้

6.อื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะรายของเจ้าหน้าที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Breaking News : ประกาศแล้ว! ขยายเคอร์ฟิวต่อ 14 วัน เพิ่ม 3 จังหวัดสีแดงเข้ม

• พบพื้นที่สีแดงเข้มประชาชนการ์ดตก"ไม่สวมหน้ากาก"พุ่ง

• พื้นที่สีแดงเข้ม นนทบุรี ติดเชื้อโควิดยอดพุ่ง 329ราย รีบเช็กไทม์ไลน์ด่วน

3 จังหวัดเมืองอุตสาหกรรม กระทบไม่น้อย

แน่นอนในมุมธุรกิจที่ต้องปิดให้บริการเพื่อคุมโควิด-19 ย่อมได้รับผลกระทบอยู่แล้วใน 10 จังหวัดก่อนหน้านี้ แต่...หากโฟกัสเฉพาะ 3 จังหวัดใหม่ ที่ถูกสั่งคุมเข้มให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้มแล้วก็ย่อมกระทบต่อสายพานการผลิตโรงงาน รวมถึงมีผลกระทบต่อชีวิตแรงงาน พ่อค้า แม่ขาย ย่านโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ในย่านนั้น

มาดูที่จ.ชลบุรี เป็นเมืองโรงงาน และท่าเรือที่สำคัญในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ข้อมูลจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า ชลบุรีเป็นจังหวัดที่ตั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมัน ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นศูนย์กลางทางค้า การลงทุน ธุรกิจบริการ ที่พักโรงแรม การจัดประชุมสัมมนา และให้บริการนักท่องเที่ยว มีท่าเรือขนาดใหญ่ที่สำคัญ คือท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้มีโอกาสเป็นศูนย์กลางคมนาคม เพื่อการนำเข้าและส่งออกทางทะเลที่สำคัญ

ชลบุรี ฉะเชิงเทรา อยุธยา ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ

ส่วนจ.ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดที่มีการลงทุนทางด้านโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง แขนาดใหญ่มาช้านาน อีกทั้งรัฐบาลมีโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก (Eastern Sea Board) ซึ่งมีการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขนส่งออกและนำเข้า นอกจากนี้ยังมีทางหลวงสายกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ (มอเตอร์เวย์) ทำให้การเดินทางและการขนส่งไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรารวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ทำเลของจังหวัดฉะเชิงเทรายังอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์อีกด้วย

ในขณะที่ จ.อยุธยา คือเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าโลจิสติกส์ มีแรงงานจำนวนมาก จากทั่วสาระทิศมารวมกันอยู่ที่นี้ ทำให้เศรษฐกิจในย่านโรงงานเติบโตมาก ๆ ไม่ว่าจะค้าปลีกค้าส่ง อสังหาริมทรัพย์ ค้าขายอื่น ๆ 

สาวโรงงานโอดกระทบคนทำงานกะดึก

‘ชนธิชา  โมชัย” สาวโรงงานแห่งหนึ่งที่ทำงานงานในอยุธยามากว่า 30 ปี เล่าให้ฟังว่า มาตรการเข้มพื้นที่สีแดงเข้มจะส่งผลกระทบต่อชีวิตหนุ่มสาว โรงงาน ในเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะคนที่ทำงานกะดึก จึงทำให้หลายบริษัทต้องมาวางแผนเรื่องของเวลาเปลี่ยนกะกันใหม่ ส่วนบรรยากาศการค้าขายรอบโรงงานก็เงียบเหงา คนไม่กล้าออกไปซื้อของ ส่วนตัวได้แต่ภาวนาให้ไม่มีการจ้างคนทำงานออก เพราะยังมีหนี้สิน รวมถึงอยากให้กำลังใจคนไทยให้สู้ๆ ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้