ทางออกการเงินยุคโควิด ต้อง ใจดี มีวงเงินให้ยืม อนุมัติไว ยืมง่ายบนมือถือ

นาทีนี้ต้องบอกได้เลยว่าโควิด-19 ทำคนงานหาย รายได้หด บางคนถูกเลิกจ้าง ลดเงินเดือน พ่อค้า แม่ค้า ขายของก็ไม่ค่อยจะดีทำให้หาเงินได้น้อยลง แต่...รายจ่ายยังเท่าเดิม และหนี้สินที่ต้องจ่ายก็ต้องเดินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ครอบครัว งวดรถ งวดบ้าน เรียกได้ว่าชักหน้าไม่ถึงหลังกันเลยทีเดียวในช่วงนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนกำลังหาวิธีช่วยตัวเองว่าจะหาเงินมาหมุนให้ทันในช่วงนี้ยังไง ? เพื่อให้พ้นผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ไปให้ได้

จากปัญหาดังกล่าวทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้วิธีไปกู้ยืมเงินจากสถาบันทางการเงินต่าง ๆ แต่ก็ต้องใช้หลักฐาน เอกสารมากมาย หลายขั้นตอน กว่าจะอนุมัติก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ทำให้ได้เงินมาไม่ทันใช้ตามความต้องการ หรือบางคนตกงาน  ทำงานอิสระ เป็นแม่ค้า พ่อค้า เกษตรกร อาชีพอื่น ๆ ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนก็จะขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลกับสถาบันทางการเงินได้ยาก เพราะไม่มีเอกสารหลักฐาน สลิปเงินเดือน ส่วนบางคนชักหน้าไม่ถึงหลังก็ไปเพิ่งกู้นอกระบบ ซึ่งดอกเบี้ยโหดมาก แถมยังเสี่ยงต่อการถูกทวงหนี้แบบรุนแรง

แต่...ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากคุณลองเปิดมุมมองมารับประสบการณ์ใหม่ของบริการ ‘ใจดี มีวงเงินให้ยืม’จากดีแทค สินเชื่อส่วนบุคคลผ่านมือถือ ง่าย รวดเร็ว สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการสินเชื่อรายย่อยที่ทำบนมือถือแห่งแรกของประเทศไทย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี  ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 พันธมิตร ได้แก่ ดีแทค , LINE BK และ KBTG  คือผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม ผู้ให้บริการโซเซียลแบงกิ้ง และผู้พัฒนาเทคโนโลยีในการนำเสนอบริการสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบดิจิทัล เรียกได้ว่านำเอาจุดแข็งของแต่ละที่มารวมไว้ที่นี่ที่เดียวเพื่อให้ลูกค้าดีแทคได้สะดวก สบาย ใช้ชีวิตง่าย ไร้ขีดจำกัด

‘นายฮาว ริเร็น’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า สินเชื่อส่วนบุคคลผ่านมือถือนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่ทำร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้ลูกค้าดีแทคกว่า 19 ล้านคน ได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย สะดวก เป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยสินเชื่อรายย่อย ‘ใจดี มีวงเงินให้ยืม’ ได้เปิดกว้างให้ผู้ที่ต้องการวงเงินเพิ่มสภาพคล่องด้านการเงินในทุกอาชีพได้เข้าถึงสินเชื่อ

ทั้งนี้จากการสำรวจปัญหาทางด้านการเงินของลูกค้าดีแทคในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2563- 2564 พบว่า ลูกค้าต้องเผชิญภาวะความตึงเครียดด้านการเงิน การจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และมีเพียงส่วนน้อยที่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ถูกต้อง เหมาะสม ทั้งนี้หากดูสถิติในปี 2563 ยังพบว่า ลูกค้าใช้บริการ ‘ใจดี’ ทั้งหมดรวมถึง ‘ใจดีให้ยืม’ และ ‘ใจดีช่วยค่ายา’ ของดีแทคมากกว่า 140 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ากำลังเผชิญกับปัญหา

ด้าน ‘นายธนา โพธิกำจร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอกย้ำแนวคิด “เรื่องเงินง่ายใน LINEคุณ” ของ LINE BK  โดยมีเป้าประสงค์ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ง่าย และสะดวกขึ้นภายใต้สภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมต้องการฉีกกฎของการขอสินเชื่อแบบเดิมที่ต้องมีสลิปเงินเดือน และจะต้องเป็นพนักงานประจำถึงจะกู้ได้ อีกทั้งต้องยื่นเอกสารอื่น ๆ มากมาย กว่าจะรออนุมัติก็ต้องใช้เวลา ซึ่งลูกค้าดีแทคสามารถสมัครได้ง่าย ๆ ตามคุณสมบัติ พร้อมเงื่อนไขง่าย ๆ ดังนี้

-ถ้าใช้ดีแทคกู้ได้

- ไม่เอาสลิปเงินเดือน แค่บัตรประชาชน

-มีรายได้ต่อเดือน 5,000 บาท ขึ้นไป

-กู้ได้วงเงิน 1.5 เท่าของรายได้ สูงสุด 800,000 บาท

-สมัครได้ที่ dtac แอปพลิเคชัน และกู้ผ่าน LINE แอปพลิเคชัน (ที่เมนู Wallet > LINE BK)

-อนุมัติง่าย สะดวก รวดเร็ว บนมือถือ ไม่มีค่าธรรมเนียม

-อนุมัติผ่านดีแทคให้เงินคืนอีก 200 บาท (ลูกค้าเติมเงินรับเป็นเครดิตเงินคืน ลูกค้ารายเดือนรับส่วนลดค่าบริการ จำนวน 100 บ./เดือน)

- ช่วงแนะนำบริการ รับข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ  9.99% ต่อปี นาน 2 เดือน

-จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย 18-36% ขึ้นกับการประเมินความเสี่ยงผู้กู้

 -ระยะเวลาที่เปิดให้ลูกค้าใช้บริการในช่วงแรก เริ่ม 16 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2564

-ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.dtac.co.th/s/Advertorial_JD หรือติดต่อ dtac call center 1678 

ขณะที่ ‘นายเรืองโรจน์ พูนผล’ ประธาน  กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ได้นำจุดแข็งของทั้ง 3 องค์กรมารวมกันจึงได้เกิดการบริการดี ๆ อย่าง สินเชื่อรายย่อยส่วนบุคคลดิจิทัล‘ใจดี มีวงเงินให้ยืม’ ที่คาดว่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทยในยุค New Normal โดย KBTG จะไม่หยุดยั้งที่จะคิดค้นนวัตกรรม และพัฒนาระบบเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป รวมถึงปัญหาลูกค้าก็เปลี่ยนตามด้วย จึงทำให้ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อทำแผนรองรับแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า เข้าใจ เข้าถึง ลูกค้าให้ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินดี ๆ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการร่วมมือต่อยอดโครงการดี ๆ กันอีก