ผู้ว่าฯ “ภูเก็ต” สั่งปิดโรงเรียนทั้งเกาะ ควบคุมการแพร่ระบาดหลังสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งสูง พร้อมปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์ออนไลน์ เริ่ม 12 ก.ค. -23 ก.ค.
วันที่ 10 กรกฎาคม เพจ “ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต” ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 3859/2564 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3373/2564 เรื่อง ผ่อนคลายการปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2)
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปเป็นระยะจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3377/2564 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ไปแล้ว นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สั่งปิดโรงเรียนอู่ทอง 2 วัน พบนักเรียน 51 คนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงโควิด
ตาก สั่งปิดโรงเรียน ปรับให้เรียนออนไลน์หลังพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 6 คน
เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤติต้านสาธารณสุข เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีจำนวนมากกว่าหลายพันรายต่อวัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่เร่งจัดการอาจกระทบต่อระบบบริการทางสาธารณสุข อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 35 และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่16 เมษายน 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 41/2564 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 จึงยกเลิก ข้อความ 1. ในข้อ 1ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3377/2564 ลงวันที่ 23 มีถุนายน 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้ แทน
1. ให้สถานศึกษาทุกแห่งทุกสังกัดในจังหวัดภูเก็ต ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนมหาวิทยาลัย และสถาบันกวดวิชาทุกแห่งงดการจัดการเรียนการสอน และงดการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องมีการรวมกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา
2. ให้สถานศึกษา มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาทุกสังกัด ให้มีการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามรูปแบบที่ต้นสังกัดกำหนดหรือรูปแบบที่เหมาะสมตามที่กำหนด โดยปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ