เช็กเส้นทางม็อบ 10 ก.ค. วันเดียวจัด 3 กลุ่มนัดเคลื่อนไหว-รวมตัวพรุ่งนี้ ย้ำชุมนุมรวมตัวอาจทำให้แพร่ระบาด โควิด 19 ด้านการบริหารจราจร ต้องให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด คาดกระทบ 9 เส้นทาง ด้านตำรวจนครบาลเตรียมความพร้อมรับมือผู้ชุมนุมพรุ่งนี้
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช,น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมความพร้อม สร้างความปลอดภัย ในสถานการณ์การชุมนุม ในวันที่ 10 กรกฎาคม
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการที่มีการเชิญชวนให้มีการชุมนุม ในวันพรุ่งนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มประชาชนคนไทย โดย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ประกาศเชิญชวนให้มีการชุมนุม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. บริเวณแยกอุรุพงศ์ จากนั้นจะมีการเคลื่อนไปบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
กลุ่มต่อมา กลุ่มคนไทยไม่ทน โดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ตั้งแต่ 16.00 น. บริเวณแยกผ่านฟ้า และคาดว่าจะมีการเคลื่อนตัว ไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล หรืออาจจะเคลื่อนตัวไปรวมกับกลุ่มสุดท้าย ที่บริเวณแยกราชประสงค์ กลุ่มคาร์ม็อบ โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ตั้งแต่เวลา 13.00 น.โดยกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เคลื่อนขบวน ในรูปแบบคาร์ม็อบ ไปยัง 4 พรรคการเมืองหลัก พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชาชนชาติไทย และสุดท้าย จะมารวมตัวกันที่แยกราชประสงค์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า การกระทำของทั้ง 3 กลุ่มนี้ ในขณะนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ ควบคุมสูงสุด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การชุมนุม การมั่วสุม หรือการจัดกิจกรรมด้วยประการหนึ่งประการใด ที่มีลักษณะเสี่ยง ต่อการแพร่ระบาดของโรค เกิดเป็นความผิดตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นอกจากนี้เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค การเดินทางสัญจร หรือการเคลื่อนตัว ไปตามเส้นทางต่างๆ ถือเป็นการกระทำผิด ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก รวมทั้ง การหยุดอยู่บริเวณหนึ่งบริเวณใด จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ตลอดจน พ.ร.บ.ความสะอาด อีกส่วนหนึ่งด้วย หากมีการใช้เครื่องกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง จะเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.เครื่องกระจายเสียง
“อยากจะฝากเตือน ว่าการชุมนุมในครั้งนี้ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สถานการณ์ การแพร่ระบาดเลวร้ายยิ่งขึ้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่ คนไทยทุกคนควรจะต้อง สมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ นำพาประเทศให้รอดพ้น กับสภาววะแบบนี้”
สำหรับการดำเนินคดี การชุมนุม ในช่วงวันที่ 2,3,4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฎผู้เกี่ยวข้องในคดี ผู้กระทำผิด กว่า 70 ราย สามารถพิสูจน์ตัวบุคคล พิสูจน์รถยนต์ ที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 47 คัน ซึ่งขณะนี้ พนักงานสืบสวนสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐาน และนำตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีให้ได้ทุกราย
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า สำหรับการควบคุมดูแลจราจร ในการชุมนุม ในวันพรุ่งนี้กองบัญชากการตำรวจนครบาล ได้เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการจราจร เพื่อให้พี่น้องประชาชนใช้รถใช้ถนนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งถนนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมนั้น โดยกลุ่มคาร์ม็อบ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น.กระทบ 9 เส้นทาง ถนนราชดำเนินกลาง ถนนหลานหลวง ถนนพระราม 6 ถนนกำแพงเพชร ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ถนนอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท และถนนเพลินจิต จนสุดท้ายไปหยุดที่บริเวณแยกราชประสงค์ ก่อนจะแยกย้าย
พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยอีกว่า จึงขอประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยง ถนนเส้นตามที่ระบุไว้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป ส่วนอีก 2 กลุ่มที่เหลือ ที่มีการรวมตัวที่แยกอุรุพงศ์ ตลอดจนแยกผ่านฟ้านั้น ผลกระทบจะมีถนนหลานหลวง ถนนนครสวรรค์ ถนนพิษณุโลก ถนนพระราม 5 ถนนนครปฐม และบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางเหล่านี้ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งตามหลักตำรวจจะไม่มีการปิดเส้นทางการจราจร ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าไปกีดขวางเส้นทางการจราจร เจ้าหน้าที่ให้ปิดการจราจรโดยปริยาย
สำหรับมาตรการการล็อกดาวน์กรุงเทพนั้น ทางด้านพล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัครพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมการรองรับมาตราการต่างๆ ในการที่ทาง ศบค. จะมีการออกมาตราการล็อกดาวน์ กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนอีกครั้ง เบื้องต้นได้มีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้เท่าที่ทราบทาง ศบค. กำลังอยู่ในขั้นตอนการประชุมพิจารณาอยู่ ยังไม่ได้มี ข้อสรุปออกมาแน่ชัด อยากให้ประชาชน ได้รับข้อมูลจาก ทางศบค.อย่างไรก็ดีทางหน่วยงานของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมขานรับนโยบายของทางรัฐบาล หรือทาง ศบค. อยู่แล้ว ซึ่งทาง ผบ.ตร.ได้มีการสั่งการให้ ตำรวจทุกนายร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นตามเจตนาของทางรัฐบาล