Breaking News : สธ.ชง ศบค.คุมโควิด14วัน ล็อกดาวน์งดออกบ้าน-ลดเดินทาง

 
นายแพทย์เกียรติภูมิ​ วงศ์รจิต​ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ระบุว่า ในการประชุมสถานการณ์โควิด-19 EOC มีมติชุดตรวจ Rabbit Antigen Test เข้ามาสนับสนุนการตรวจ ในสถานพยาบาล ที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อลดระยะเวลาในการทราบผล ทั้งนี้หากผลพบตรวจเป็นบวก จะต้องตรวจด้วย วิธี  RP-TCR เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง

โดยในระยะถัดไปกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ ให้สามารถใช้ Rabbit Antigen Test ที่บ้านได้ หากยังมีประชาชนต้องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งการตรวจ Rabbit Antigen Test จะดำเนินควบคู่ไปกับ การรักษาตัวที่บ้านหรือ Home Isolation และ Community Isolation ซึ่งจะเป็นระบบสาธารณสุขเข้าไปดูแลติดตามในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้าน

ส่วนมากตรการบุคคล กระทรวงสาธารณสุขให้ใช้มาตรการ Bubblean and seal ภายในครอบครัวหลังพบมีกาาติดเชื้อกับคนในครอบครัวมากขึ้น รวมถึงเปิดให้สถานประกอบการที่ทำงานใช้มาตรการ WFH ที่ทำงานให้ได้ร้อยละ 70 เพื่อลดการแพร่ระบาด

กระทรวงสาธารณสุขกับกทม. จะเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่ อายุ 60 ปีขึ้น และกลุ่ม 7 โรค เพื่อลดอัตราการป่วยมากและเสียชีวิต โดนเฉพาะ พื้นที่กทม. ปริมณฑลจะเร่งฉีดภายในอาทิตย์หน้า โดยภายใน 2 สัปดาห์จะฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่า 1 ล้านโดสและภายในสิ้นเดือนคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีน ผู้สูงอายุ และ กลุ่ม 7 โรค ให้ได้ร้อยละ 60 เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 

 กระทรวงสาธารณสุขเสนอยกระดับมาตรการทางสังคม ในการจำกัดการเดินทาง ไม่อยากให้ประชาชนออกนอกเคหะสถานถ้าไม่จำเป็น ยกเว้น ไปโรงพยาบาล ไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร เสนอไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด และปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมด ยกเว้น ตลาด ซูเปอร์มารเก็ต โดยจะเปิดได้แค่ ซูเปร์มารเก็ต ตลาด เท่านั้น โดยมาตรการทั้งหมดนี้จะถูกใช้พื่นที่สีแดงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นเวลา 14 วัน โดยได้เสนอ ศบค. ไปแล้ว ซึ่งต้องรอศบค.พิจารณาอีกครั้ง มาตรการทั้งหมดนี้ที่ออกมาเพื่อให้ระบบสาธารณสุข สามารถขับเคลื่อนได้

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายกฯ จะเรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ 9 ก.ค.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อกดาวน์ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันอังคารที่ 13 ก.ค ทันที ทั้งนี้หากตัวเลขขึ้นหลักหมื่น ก็อาจจะประชุม ศบค.เร็วกว่านั้น