สธ.เซ็นสัญญารับมอบ "วัคซีนไฟเซอร์" 1.5 ล้านโดส จากสหรัฐฯ แล้ว

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขผ่านวิดีโอทางไกลอยู่ที่บ้าน เนื่องจากมีอาการป่วยเล็กน้อย

 ด้าน นาย สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ประเด็นสำคัญในวันนี้ คือเรื่องการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยที่ยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยได้มีการปรับการจัดการ โดยตั้งหน่วยเฉพาะกิจฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมการแพทย์ ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ในการร่วมดูแลผู้ป่วยติดเชื้อระหว่างรอเตียง  

 โดยเฉพาะกรณีที่มีผู้ติดเชื้อที่มีอาการยังรอเตียง เบื้องต้นให้มีการประสานศูนย์แรกรับ เช่น ที่ศูนย์นิมิบุตร เพื่อเป็นศูนย์รวมในการบริหารจัดการผู้ป่วยแต่ละประเภท ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยในสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก  อย่างที่ศูนย์นิมิบุตรรองรับได้ 200 คน  โดยจะกระจายไปรักษาที่อื่นต่อ เช่น รพ.บุษราคัม

 ส่วนเรื่องวัคซีน mRna อยู่ใน ระหว่างการดูข้อกำหนดในสัญญาการสั่งซื้อคาดว่าภายใน 2 วันจะสามารถเซ็นสัญญาเพื่อสั่งซื้อได้ ขณะที่เมื่อช่วงเช้านี้ กรมควบคุมโรค ได้มีการเซ็นสัญญารับบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว

 ส่วนแนวทาง Home isolation มีการดำเนินการตามแนวทางที่กำหนด กรณีที่ผู้ติดเชื้อเข้าเงื่อนไขต่างๆ ให้ติดตามอาการในโรงพยาบาลต้นสังกัด ในส่วนนี้เงื่อนไขสำคัญ คือต้องเป็นความสมัครใจของผู้ป่วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาว่าจะเข้าเงื่อนไขหรือไม่ เช่น สภาพแวดล้อมที่บ้าน โดยจะมีอุปกรณ์ให้ผู้ป่วยติดตามอาการ

 ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ นาย สาธิต ระบุว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีและศบค.เป็นผู้พิจารณา โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์เป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมถึงมาตรการต่างๆ

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สั่งเพิ่ม ซิโนแวค 10.9 ล้านโดส งบ 6,000 ล้าน พร้อมดัน ไฟเซอร์ ​เป็นวัคซีนหลัก​

• Breaking News : ครม.อนุมัติลงนามสัญญา ซื้อวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดส

• คืบหน้าจัดหา วัคซีนไฟเซอร์ เข้า ครม. 6 ก.ค. เห็นชอบก่อนลงนาม

 ขณะที่ นพ.ธเรศ กรัษนัยวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า วันนี้ได้มีการเสนอเพิ่มโรงพยาบาลสนามอีก 3 แห่ง เป็นของภาคเอกชนที่อนุญาตให้ใช้สถานที่อยู่ฝั่งตะวันออก ย่านบางนา มี 2แห่ง ประมาณ 100 และ 500 เตียง โดยจะรักษากลุ่มผู้ป่วยสีเขียว 1 แห่ง และสีเหลือง 1 แห่ง  ส่วนอีกแห่งจะอยู่ในส่วนราชการที่จะทำโรงพยาบาลสนามระดับสูงแบบเดียวกับบุษราคัม ซึ่งจะมีประมาณ 5,000 เตียง โดยจะมีเตียง ICU เพิ่มเข้ามาด้วย

 ส่วนกรณีจุดตรวจโควิด-19 บางแห่งปฏิเสธไม่รับตรวจนั้น เบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกรุงเทพมหานครในการเพิ่มจุดตรวจให้มากขึ้น  โดยปัญหราที่สถานพยาบาลบางแห่งที่ปิดรับตรวจเนื่องจากกังวลเรื่องเตียงไม่พอ กล่าวคือตรวจพบแล้ว ไม่สามารถรับตัวเข้ารักษาได้ เพราะไม่มีเตียง   ทว่าตอนนี้สธ.พยายามลดปัญหาอยู่ ด้วยมาตรการ Home isolation ให้ผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยคัดกรอง คาดไม่เกิน สองวันสถานพยาบาลสามารถระบายผู้ป่วยได้ และสามารถกลับมาตรวจคัดกรองได้เป็นปกติ

 ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ ยังมีผู้ป่วยที่ค้างอยู่ที่บ้านและชุมชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขทำคือ พยายามจะหาเตียงและจุดแรกรับให้ผู้ที่ติดค้างได้เข้าถึงบริการมากขึ้น ส่วนที่มีข่าวว่าการปกปิดตัวเลข นายแพทย์โอภาสยืนยัน ไม่มีการปกปิด

 ส่วนกรณีปัญหาที่ประชาชนอยากเข้าหาการตรวจมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุข จะมีการใช้มาตรการใหม่ๆ มาตรวจให้เร็วขึ้น คือ การนำ Rabbit Test เข้ามาช่วยในการตรวจ โดยวันนี้จะมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีเมื่อตรวจแล้วมีผลบวกก็จะมีจุดแรกรับ คือ ที่นิมิบุตร รวมทั้งมีการขยายเตียงรองรับและสุดท้ายจะจัดการเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยผู้เสียชีวิตให้มากขึ้นในระบบ  ตามหลักหากพบผู้เสียชีวิตก็จะมีการรายงานมาที่ส่วนกลาง ซึ่งจะไม่ได้มีการรายงานมาทันที ก็จะมีการสะสมบ้างแล้วถึงรายงานเข้าระบบ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตก็จะมีการรวบรวมให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด อีกประการหนึ่งคือกรณีที่มีการเสียชีวิตแล้วทางแพทย์นิติเวชสงสัยว่าจะเป็นโควิดหรือไม่ ได้ขอความร่วมมือ ถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจโควิดด้วย หากพบผลบวก ก็จะได้นำเข้าสู่ระบบรายงานต่อไป

 นอกจากนี้เรื่องการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 10 ล้านโดสนั้นก็เป็นไปตามสัญญาการสั่งซื้อ ที่เป็นตามนโยบาย โดยวัคซีนที่นำเข้ามาทั้งหมดเป็นวัคซีนที่มีมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ที่ได้รับการรับรองแล้ว และวัคซีน ซิโนแวค ถือว่า มีความปลอดภัยสูงที่สุดเนื่องจากใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ถ้าเทียบกับวัคซีนอื่นๆ

 

ส่วนวัคซีน ชนิด mRna ที่มีไฟเซอร์ซึ่งผ่านที่ประชุมครม.เห็นชอบ และทางกรมควบคุมโรคจะมีการสั่งซื้อ 20 ล้านโดส ซึ่งก็เป็นตามนโยบายของรัฐในการจัดหาวัคซีนชนิด mRna  ส่วน วัคซีนโมเดอร์นา  ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันถูกจัดเป็นวัคซีนทางเลือกอยู่แล้ว ก็เป็นขั้นตอนการจัดซื้อของโรงพยาบาลเอกชน