นายกรัฐมนตรี กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยประสานหน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ควบคุมเหตุโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก จ.สมุทรปราการ เต็มที่ เร่งดูแลความปลอดภัยประชาชนสูงสุด
วันที่ 5 ก.ค. 64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ในช่วงเช้าของวันนี้ได้เกิดเหตุระเบิดโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ในซอยกิ่งแก้ว21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับรายงานเหตุการณ์ในครั้งนี้และได้กำชับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานด้านการป้องกันสาธารณภัยให้ประสานการทำงานกับทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยกับประชาชนมีประสิทธิภาพสูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
• ด่วน! พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุโรงงานระเบิดในซอยกิ่งแก้ว 21
• โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ส่งผล "สารสไตรีน" ภัยร้ายใกล้ตัวเรา
• บึ้มสนั่น! โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ถังเคมีใหญ่ระเบิด ไฟลุกท่วม บาดเจ็บนับสิบ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกหน่วยงานที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก เนื่องจากโรงงานที่เกิดเหตุตั้งอยู่ในชุมชน เป็นโรงงานที่มีคลังเก็บสารเคมีไว้จำนวนมาก นอกจากผลกระทบจากแรงระเบิดแล้ว อาจมีผลกระทบในส่วนมลพิษทางอากาศด้วย จึงขอให้การควบคุมสถานการณ์ดำเนินการอย่างรอบด้าน พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติภารกิจลุล่วง ดูแลประชาชนให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศไทย นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงคมนาคม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูล ประเมินเหตุที่เกิดขึ้นว่าส่งผลกระทบต่อการให้บริการของท่าอากาศยานหรือไม่เพียงใด เพื่อปรับการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสากล หากมีการเปลี่ยนแปลงใดขึ้นก็ให้เร่งแจ้งข่าวสารผู้ใช้บริการทราบต่อไป
“นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติงานและดูแลประชาชนให้เต็มที่ และให้เร่งสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุใด มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายจนเกิดเหตุรุนแรงครั้งนี้หรือไม่ พร้อมกับให้พิจารณาในเรื่องของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามกรอบของกฎหมายต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว