นายวราวุธ ศิลปอาชา เผย หากมีมติเสนอให้ ส.ส.-ครม.หักเงินเดือนนำไปช่วยเหลือสถานการณ์โควิด-19 ก็ยอมรับ แต่จะเหมือนการนำ "เนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง" ส.ส. อาจเสียกำลังใจ ขณะเดียวกันมองฝ่ายค้านยื่นอภิปรายเป็นเรื่องปกติในช่วงเกินครึ่งทางนับถอยหลังรัฐบาล
5ก.ค.64 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนาหรือชทพ.กล่าว ถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมเสนออภิปราการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยระบุว่าเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่จะยื่นอภิปรายภายใต้ระบบรัฐสภาซึ่งต้องดูเนื้อหาต่อจากนั้นว่าจะนำข้อมูลเรื่องใดมาเป็นประเด็นอภิปราย ซึ่งตนเองทำงานอยู่ในรัฐบาลก็จะได้เห็นความคืบหน้าของแต่ละฝ่าย แก้ปัญหาได้อย่างไรและมีข้อจำกัดอะไรบ้าง ซึ่งบางท่านไม่ได้อยู่ในระบบการทำงานก็จะมีแนวคิดที่แตกต่างกันไป ก็ขอให้ไปอธิบายกันในรัฐสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลขาฯสมช. ชี้ อัยการสูงสุดอนุมัติจัด ไฟเซอร์ เตรียมชงเข้าครม.วันพรุ่งนี้
ครูลูกกอล์ฟ คณาธิป เดือด! ซัดพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ส่งเสียงแทนประชาชน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเองก็มีความขัดแย้งภายในรัฐบาลจะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายค้านโจมตีได้หรือไม่นั้นเผยว่า มีจุดอ่อนในเรื่องนี้ทุกรัฐบาล และขณะนี้ทำงานมากว่า2ปีแล้วซึ่งสามารถมองได้ว่าเราเดินเลยมาครึ่งทางของรัฐบาลชุดนี้แล้ว ก็เสมือนการนับถอยหลังของทุกรัฐบาล เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลต้องเจอเมื่อทำงาน ร่วมกันก็ต้องมีความเห็นต่างต่อกันเป็นเรื่องปกติ และมองว่าเป็นเรื่องปกติเช่นกัน ที่ฝ่ายค้านจะนำความขัดแย้งมาแตกเป็นเรื่องอภิปราย ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่จะมี ทั้งฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายรัฐบาล
ส่วนความขัดแย้งระหว่าง พรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย ในพรรครัฐบาลเองโดยเฉพาะปัญหาโควิด-19 ที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนในการแก้ไขปัญหาแต่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ยังถือว่าการแก้ไขปัญหาของบ้านเรามีประสิทธิภาพกว่าหลายประเทศ ทั้งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่
ขณะกรณีที่นิด้าโพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเสนอให้ ส.ส.และรัฐมนตรีบริจาคเงินเดือนในภาวะวิกฤติเพื่อช่วยให้สถานการณ์โควิด-19ในประเทศนั้น หากมีนโยบายออกมาก็เชื่อว่าสมาชิกจะไม่ขัดข้องรวมถึงตนด้วย ซึ่ง ความเป็นจริงแล้วส.ส.หลายคน มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงโดยเฉพาะภาษีสังคม ทั้งงานบุญ งานบวช ที่ต้องไปช่วยเหลือสังคม แต่หากเป็นนโยบายออกมาชัดเจน ก็เชื่อว่าทั้ง ส.ส.และครม. น่าจะไม่ขัดข้อง ส่วนถ้าหากขอหักสัก30เปอร์เซ็นต์พอรับได้หรือไม่นั้น หากนับจำนวนสสที่มีและครม. ทั้งหมดก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก จะเหมือนกับ 'เนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง' ในทางกลับกันอาจมีผลกระทบทางด้านจิตใจของ ส.ส.และครม.แต่หากมีมติออกมาก็พร้อมจะปฎิบัติตาม