ไฟป่าโหมกระหน่ำใส่ตะวันตกของแคนาดา ผลจากฮีทเวฟที่สูงเป็นประวัติการณ์

ผู้อยู่อาศัยในบางส่วนของบริติชโคลัมเบียได้รับคำสั่งให้อพยพเนื่องจากไฟป่าได้โหมกระหน่ำทั่วเขตของแคนาดาหลังจากฮีทเวฟ (คลื่นความร้อน) ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า มีไฟป่ากว่า 176 จุด เมื่อวันเสาร์เที่ยง และกว่าอีก 76 จุด ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย

คลิฟ แชปแมน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการระดับภูมิภาคของศูนย์ควบคุมดูแลไฟป่าบริติชโคลัมเบีย เผยว่า "ความแห้งแล้งปีนี้ เร็วกว่าวงจรแห้งแล้งโดยปกติถึงสามสัปดาห์ มันเทียบไม่ได้กับฤดูกาลในอดีตเพียงแค่ฮีฟเวฟที่ก่อตัวขึ้นในเดือนมิถุนายนก็หนักกว่าเป็นไหนๆ"

แชปแมน ยังเสริมอีกว่า มีรายงานการเกิดฟ้าผ่าประมาณ 12,000 ครั้งทั่วทั้งจังหวัดในวันพฤหัสบดีเพียงวันเดียว

เพลิงไหม้เกิดขึ้นหลังจากที่จังหวัดที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคนาดาประสบกับอุณหภูมิร้อนระอุที่ทำลายสถิติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีหมู่บ้านลิตตัน ซึ่งอยู่ห่างจากแวนคูเวอร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 275 กม. ภายในบริติชโคลัมเบีย มีอากาศร้อนที่ทำลายสถิติทั่วประเทศเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน

รัฐบาลท้องถิ่นของลิตตันสั่งอพยพทั่วทั้งชุมชน หลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ ทำให้ชาวบ้านต้องหลบหนี และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

ฮาร์จิต สัจจัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของแคนาดา กล่าวว่า รัฐบาลกลางกำลังตั้งฐานรับมือเหตุฉุกเฉินในเมือง เอดมันตัน รัฐแอลเบอร์ตา เพื่อช่วยรับมือกับไฟป่า

"เราจะวางตำแหน่งทรัพยากรทางอากาศในเอดมันตันให้มากขึ้นโดยเร็วที่สุด รวมถึงเครื่องบินเฮอร์คิวลีส และเฮลิคอปเตอร์ ชินุค ขนาดกลางสองลำ พวกเขาสามารถใช้เพื่อจัดหาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอุปกรณ์ทางอากาศเข้าและออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและสนับสนุนการอพยพของผู้อยู่อาศัย"

รัฐบาลท้องถิ่นบริติชโคลัมเบีย ยังได้ประกาศขอความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับภัยพิบัติที่ได้รับผลกระทบจากเปลวเพลิง

"ตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเมื่อวานนี้ รัฐบาลระดับมณฑลและรัฐบาลกลางจะอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยลิตตันสร้างชุมชนขึ้นมาใหม่" ไมค์ ฟาร์นเวิร์ธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ กล่าวในแถลงการณ์

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าในช่วงต้นและช่วงที่อากาศร้อนจัด ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่ามีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เรียกว่า "โดมความร้อน" ซึ่งเป็นระบบสภาพอากาศที่ดักจับอากาศร้อน ซึ่งไหลลงมาทางชายฝั่งตะวันตก ในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

ลิซ่า ลาปวงต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของบริติชโคลัมเบีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ามีผู้เสียชีวิต 719 ราย ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. ถึงวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งมากกว่าปกติถึง 3 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เธอกล่าวว่าผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านที่มีการถ่ายเทอากาศน้อย

"เรากำลังเผยแพร่ข้อมูลนี้ เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะเป็นสภาพอากาศที่รุนแรงก่อนคริสตกาล ประสบการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น" ลิซ่า กล่าวในแถลงการณ์

"บางส่วนของจังหวัดยังคงประสบกับอุณหภูมิที่สูงผิดปกติ และยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เป็นอันตรายจากความร้อนจัด โปรดดูแลครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามลำพัง"