พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถาม “ต้องใช้น้ำตาอีกกี่หยด ใช้ชีวิตคนไทยอีกกี่ชีวิต กว่าที่รัฐบาล นายกฯ จะตื่น และได้ยินเสียงร้องไห้ ของพี่น้องประชาชน” พร้อมเสนอยุบ ศบค. แก้ปัญหาโควิดล่าช้าและล้มเหลว
ในการประชุมสภาวันนี้ ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เสนอญัตติด่วน ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาโควิด-19 และเสนอแนะต่อรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกฯ ยุบ ศบค.
โดยนายพิธาได้เริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า “90 นาที ต่อ 1 คน คือสถิติการฆ่าตัวตาย ของคนไทยใน 1 ปีที่ผ่านมา มากที่สุดในรอบ 24 ปี นี่ยังไม่นับอีก 1,800 ชีวิต ที่จะต้องสูญเสียในช่วงโควิด ต้องใช้น้ำตาอีกกี่หยด ใช้ชีวิตคนไทยอีกกี่ชีวิต กว่าที่รัฐบาล นายกฯ จะตื่น และได้ยินเสียงร้องไห้ ของพี่น้องประชาชน”
นายพิธาเปิดเผยข้อมูลว่า วันนี้ประเทศไทย สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง แย่กว่าอเมริกา ที่เคยมีอัตราผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลก รวมถึงแย่กว่าอินเดีย และค่าเฉลี่ยของเอเชียถึง 2 เท่า (ทั้งๆ ที่การตรวจของไทยมีอัตราที่น้อยมาก)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลงพื้นที่ภูเก็ต ดีเดย์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว Phuket Sandbox
‘บิ๊กป้อม’ ถาม จะเอาอะไรอีก ปม แคมเปญขัดขืน กูจะเปิดมึงจะทำไม
พื้นที่สีแดงเข้ม นนทบุรี ติดเชื้อโควิดยอดพุ่ง 329ราย รีบเช็กไทม์ไลน์ด่วน
นายพิธา กล่าวว่า นายกฯ มีทั้งเวลาในการเตรียมการ มีทั้งงบประมาณ แต่กลับปล่อยให้สถานการณ์เลวร้าย จนคนไทยตายราวกับใบไม้ร่วง ทำให้ตนรับไม่ได้ และนี่คือเหตุผลที่ต้องเสนอญัตติด่วน ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในการยุบ ศบค.
เพราะการบริหารเป็นไปแบบอำนาจซ้อนอำนาจ งบฯ ซ้อนงบฯ การทำงานล่าช้า ส่งผลให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก เพื่อกลับมาสู่วิธีการทำงานแบบปกติ ที่ตรวจสอบได้ และให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ไม่เพียงแต่ยุบ ศบค. เท่านั้น ต้องมีการปรับ ครม. หา รมว.ต่างประเทศ ที่มีความสามารถ ในการเจรจาติดต่อจัดหาวัคซีน รวมถึงต้องหา รมว.มหาดไทย ใหม่ ที่เข้าใจการแก้ปัญหาโรคระบาด ไม่ใช่กระจายโรคระบาด ด้วยวิธีคิดที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ รวมถึงการหา รมว.สาธารณสุข ที่เข้าใจระบบสาธารณสุขอย่างแท้จริง ฯลฯ
นายพิธา กล่าวว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องถอยแล้ว เพื่อให้คนรุ่นใหม่ คนที่เข้าใจปัญหา คนที่ทำงานเป็น ได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ โดยได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “น้ำตาของคน เวลาไหลออกมา มันเป็นน้ำ แต่ถ้ามันหยดถึงพื้นเมื่อไหร่ มันก็ลุกเป็นไฟได้เช่นเดียวกัน”