ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้โควิดจะลดน้อยลง เด็กต้องมีภูมิต้านทาน คาดสิ้นปี อายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปจะได้ฉีดวัคซีน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า…
โควิด 19 วิกฤตโรค จะลดน้อยลง เด็กจะต้องมีภูมิต้านทานด้วย
ในขณะนี้ การป้องกันส่วนใหญ่ เราป้องกัน การเสียชีวิต หรือเจ็บป่วยร้ายแรงที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป
ในผู้ที่มีอายุน้อย และกลุ่มประชากรเด็ก ความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่ามาก และมีจำนวนมากติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรือมีอาการเป็นเพียงแค่หวัดเล็กน้อย แต่สามารถแพร่กระจายโรคได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "หมอยง" แนะเร่งฉีดวัคซีนโควิด ก่อนสายพันธุ์ "เดลต้า" ระบาดรุนแรงในไทย
• หมอยง โพสต์ ไขข้อข้องใจ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
• หมอยง เผยผลศึกษาภูมิต้านทาน หลังฉีดวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า-ซิโนแวค"
ความหวังในการให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ ที่จะลดการระบาดของโรคให้ได้มากที่สุด จึงจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ที่มีอายุน้อย วัยรุ่น และเด็ก มีภูมิต้านทานเพื่อป้องกันการระบาดของโรค ภูมิต้านทานหมู่จะเกิดขึ้นได้ จึงต้องรวมประชากรกลุ่มเด็กด้วย
จึงไม่แปลกที่ขณะนี้มีการศึกษา วัคซีนที่จะใช้ในเด็กรายการป้องกันหรือให้เกิดภูมิต้านทานขึ้น และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ หรืออย่างช้า เด็กอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะได้มีวัคซีนใช้แน่นอน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันกลุ่มในทุกวัย
การให้วัคซีนในเด็ก โรคนี้ไม่รุนแรงในเด็ก ดังนั้นวัคซีนในเด็ก จะต้องเน้น "ความปลอดภัย" ของวัคซีนเป็นหลัก มากกว่าสิ่งอื่นใด
เด็กจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ และไปโรงเรียนตามวิถีชีวิตของเด็ก