นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ ชี้อัตราการติดเชื้อต่อประชากรของไทย สูงกว่าอเมริกา อินเดีย เยอรมนี ตั้งแต่เกิดวิกฤตจนถึงวันนี้ ผ่านมา 18 เดือน รัฐบาลไทยไม่เคยออกมาตรการใดๆ ที่จะให้คนสามารถเข้าถึงชุดตรวจโควิด-19 ได้ด้วยตัวเองฟรีๆ หรือในราคาถูก
น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นักเขียน นักแปลชื่อดัง โพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล กล่าวถึง สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ โดยระบุว่า
อัตราการติดเชื้อต่อประชากรของไทย สูงกว่าอเมริกา อินเดีย เยอรมนี ชาติที่เราเคยเห็นข่าวน่ากลัวเรื่องความหนักหนาของโควิด-19 เมื่อปีกลายแล้วนะคะ ตัวเลขนี้น่าจะต่ำกว่าความจริงมากด้วย เพราะเราตรวจหาเชื้อแค่วันละ 5-6 หมื่น เท่านั้น และตั้งแต่เกิดวิกฤตจนถึงวันนี้ ผ่านมา 18 เดือน รัฐบาลไทยไม่เคยออกมาตรการใดๆ ที่จะให้คนสามารถเข้าถึงชุดตรวจโควิด-19 (rapid test และอื่นๆ) ได้ด้วยตัวเองฟรีๆ หรือในราคาถูก และไม่เคยมีมาตรการส่งเสริม home isolation (รักษาตัวเองที่บ้าน สำหรับคนที่อาการไม่หนัก) เลย ทั้งที่เราเห็นบทเรียนจากต่างประเทศมาแล้วนับไม่ถ้วนว่าสองอย่างนี้จำเป็นขนาดไหน ในการแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• วิกฤตกรกฎาคม ! ชมรมแพทย์ชนบท เผย เตียงเต็ม ICU เต็ม แถมวัคซีนโควิด-19 มาน้อย
• สธ. สั่งให้ทุกจังหวัดเตรียมมาตรการรองรับแรงงานที่กลับบ้าน
• #ประยุทธ์ออกไป ขึ้นเทรนด์อันดับ1 ท่ามกลางกระแส “ล็อกดาวน์กรุงเทพ” ข้ามคืน
เผื่อใครยังไม่เข้าใจว่านี่มัน "วิกฤต" ขนาดไหนแล้ว
อ้อ อยากบอกกองเชียร์ร้าบาน(ยังมีอยู่อีก !!!!!!!!$@*#@) ว่า ได้เวลาเลิกเชื่อฟอร์เวิร์ดเมลงี่เง่าที่ไม่มีข้อมูลอ้างอิงใดๆ มีแต่ความเห็นหรือการมโนขึ้นมาเองแล้วอ้างว่านี่คือ "ความจริง" ได้แล้ว แล้วก็ช่วยฝึกทักษะการวิเคราะห์ของตัวเองโดยด่วน เช่น หัดเปรียบเทียบตัวเลขต่างๆ ข้ามประเทศเป็นอัตราส่วน "ต่อประชากร" จะได้เทียบได้
เพราะแต่ละประเทศใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ไม่ใช่หลงเชื่อตัวเลขสัมบูรณ์ (absolute numbers) ที่ไม่ได้แปลว่าเราเก่งกาจเลย (เช่น ตัวเลขอัตราการฉีดวัคซีน ถ้าเอาจำนวนคนที่ได้วัคซีนทั้งหมดมาเทียบ แบบนี้สิงคโปร์ ประเทศที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 50%+ ของประชากร ยังไงๆ ก็จะอยู่อันดับท้ายๆ เพราะประเทศเขามีคนแค่ห้าล้านกว่า น้อยกว่าประชากรกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ) --- จริงๆ อยากด่าอีกหลายเรื่องแต่ขอแค่นี้ก่อน สั้นๆ ว่า ถ้ากองเชียร์ร้าบานยังไม่ฉลาดขึ้น ร้าบานหน้าโง่บ้าอำนาจนี่ก็จะยังได้ใจไปเรื่อยๆ