ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย มี มติให้ ห้าง ศูนย์อาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ สามารถปรับเวลาเปิด-ปิดได้ หลังรัฐคลายล็อกกิจกรรม โดยมีผลวันที่ 21 มิ.ย. นี้
ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย มี มติให้ ห้าง ศูนย์อาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ สามารถปรับเวลาเปิด-ปิดได้ หลังรัฐคลายล็อกกิจกรรม โดยมีผลวันที่ 21 มิ.ย. นี้
หลังมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พิจารณาปรับพื้นที่ตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และพิจารณามาตรการผ่อนคลายกิจกรรม สถานที่ต่างๆ หรือมาตรการคลายล็อกดาวน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นั้น
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและนายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย กล่าวว่า ทั้งสองสมาคมตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสมาชิกสมาคมและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ยืนยันที่จะให้ความร่วมมือตามประกาศภาครัฐที่ผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่ ดังนี้ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า รวมถึง ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท ร้านอาหารที่ดำเนินการอยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) จะยังคงกำหนดเวลาให้บริการถึง 21.00 น. ทั้งนี้ ร้านอาหารในศูนย์การค้าสามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ 50% ของพื้นที่ และสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น. เหมือนเดิม
เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มวันนี้วันแรก ที่ร้านสะดวกซื้อ
เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิดรายที่ 1693 พนักงานร้านสะดวกซื้อย่านนครอินทร์
อ่วม! ไทยชนะ ลงชื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ ชาวเน็ตจวกไม่เวิร์ค เสี่ยงติดเชื้อ ใส่ชื่อมั่ว
ร้านสะดวกซื้อจะยังคงให้บริการตามเวลา 04.00 – 23.00 น. ทั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) และพื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด)
นอกเหนือจากข้อกำหนด 2 ข้อข้างต้น ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท ร้านสะดวกซื้อ และ ร้านอาหารในศูนย์การค้า สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติทั้งนี้ ทุกท่านยังต้องสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ นอกจากนี้ ยังคงงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก รวมถึงการให้พนักงาน Work From Home เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทุกหน่วยงานสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง (ยกเว้นจะมีประกาศของ ศบค. หรือ ของจังหวัด ระบุเป็นอื่นใดที่เข้มข้นนอกเหนือจากนี้)