svasdssvasds

โควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำอังกฤษยอดติดเชื้อพุ่ง! ยูโร2020 ก็ยังต้องจัดต่อ

โควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำอังกฤษยอดติดเชื้อพุ่ง! ยูโร2020 ก็ยังต้องจัดต่อ

มีสัญญาณที่ไม่ค่อยสู้ดีกับสถานการณ์โควิดอังกฤษ เพราะพบติดเชื้อเกินหมื่นราย สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน พบปัจจัยหลักเกิดจากกลุ่มคนวัยหนุ่ม-สาว ที่เป็นผู้ติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์เดลต้า ขณะที่การเป็นเจ้าภาพร่วมยูโร 2020 ก็ต้องจัดต่อไป

ยอดติดเชื้อสูงสุดในรอบ 4 เดือน

กระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรรายงานว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีสิ่งที่น่าเป็นกังวล เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 มิ.ย.)  มีผู้ติดเชื้อโควิด มากกว่า 11,000 คน นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 4 เดือนเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตาม ยอดผู้ติดเชื้อของอังกฤษ ส่วนใหญ่มาจากโควิดสายพันธุ์เดลต้า (ซึ่งพบครั้งแรกที่อินเดีย) และจากการศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ ที่ Imperial College London ชี้ว่าความชุกของเชื้อโควิด-19 นั้นสูงที่สุด ในช่วงอายุ 5-12 ปี รวมถึงกลุ่มคนวัยรุ่น 20-29 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั่นเอง 

ทางการอังกฤษ จึงเปลี่ยนคำประกาศ โดยระบุว่า คนในวัย 18 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดได้แล้วตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไป เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้การระบาดในหมู่คนที่อายุน้อย เพิ่มสูงขึ้น

ปัจจุบัน สหราชอาณาจักรฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 73 ล้านโดส คิดเป็น 55 เปอร์เซนต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงแล้ว และการเปิดทางให้กลุ่มที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนได้ ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อคลี่คลาย เพราะตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เป็นปัญหาแล้ว 

english

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำ
    อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าแม้จะพุ่งสูงขึ้น แต่ถือว่าตัวเลขสวนทางกับจำนวนผู้เสียชีวิตในโควิดอังกฤษ เพราะตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ได้สูง เพราะยังอยู่ที่หลัก 11 คน เมื่อวันศุกร์ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา 

สาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ามี ราว 33,000 คน แบ่งเป็น คนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 58% ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยเด็ก-วัยรุ่น 

ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำประกาศให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปไปรับวัคซีนได้นั่นเอง ซึ่งจากสถิติดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมาก แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว มีอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่ากลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาก ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าเมื่อฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ไม่ว่าจะด้วย วัคซีนPfizer หรือวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ลดความเสี่ยงในการเข้าโรงพยาบาลได้ราว 70% 

covid ชะลอคลายล็อกดาวน์ 

ความจริงแล้ว บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีกำหนดการเปิดประเทศ หรือคลายล็อกดาวน์ขั้นสุดท้ายอย่างเป็นทางการ คือวันจันทร์หน้า วันที่ 21 มิถุนายน  แต่เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้ ต้องเลื่อนคลายล็อกดาวน์ระยะสุดท้ายในอังกฤษจาก 21 มิ.ย. ไปเป็น 19 ก.ค. หรือราวๆ 4 สัปดาห์ข้างหน้านั่นเอง

จากการชะลอล็อกดาวน์ครั้งนี้ ส่งผลให้ไนต์คลับจะยังเปิดไม่ได้ การจำกัดจำนวนผู้ชมในโรงละคร สนามกีฬาจะยังมีต่อไป พร้อมกับคำแนะนำให้คนทำงานจากบ้านต่อไป รวมทั้งจะยังไม่ยกเลิกข้อบังคับทางกฎหมายทั้งหมดในเรื่องการพบปะกันของผู้คน ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
    

ยูโร 2020 ยังต้องเป็นเจ้าภาพต่อ

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในอังกฤษพุ่งสูงขึ้น นั่นหมายความในการแข่งขันยูโร 2020 ที่เตะที่สนามเวมบลี่ย์ จะไม่มีโอกาสเห็นผู้ชมเข้าชมเต็มความจุ 90,000 ที่นั่งแน่นอน 

แต่สนามเวมบลี่ย์ ก็ยังจะใช้จัดยูโร 2020 ต่อไป ซึ่งในการแข่งขันยูโร 2020 ครั้งนี้ เวมบลี่ย์ จะได้จัดการแข่งขัน 8 นัด โดยผ่านมาแล้ว 2 นัด คือ อังกฤษชนะโครเอเชีย 1-0 มีผู้ชม 18,497 คน , ขณะที่ เกมเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย) ซึ่งอังกฤษเสมอกับสกอตแลนด์ 0-0 มีผู้ชมเข้าสนามได้ 20,306 คน

อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลอังกฤษ จะเปิดทางให้สนามเวมบลี่ย์ ให้มีผู้ชมได้ 50% หรือราวๆ 45,000 ที่นั่ง เมื่อถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย จนถึงรอบชิงยูโร 2020 ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 11 กรกฏาคมนี้ 

    จะเห็นได้ว่า รัฐบาลของบอริส จอห์นสัน มีการลำดับวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากโควิดสายพันธุ์เดลต้าจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ยังต่ำ เพราะนั่นเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวนมาก และการจัดยูโร 2020 ก็ยังเดินหน้าได้ต่อไป...ไม่มีปัญหา แม้จะน่าเสียดายมากที่นัดชิงฯยูโร 2020 ทุกคนจะไม่ได้เห็นบรรยากาศคนเต็มสนาม

kane ขอบคุณภาพจาก ขอบสนาม 

related