นิตยสาร "ดิ อีโคโนมิสต์ จัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก โดยวัดจากปัจจัยรอบด้านในยุดโควิด-19 และประเมินจากเมืองทั่วโลก 140 เมือง ผลปรากฏว่า โอ๊คแลนด์ ได้รับแสงสปอร์ตไลท์ฉายแสงที่สุด ได้ครองอันดับ 1 ครั้งนี้
เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมือง โอ๊คแลนด์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก โดยวัดมาจาก การสำรวจและจัดอันดับของศูนย์วิจัย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit - EIU) ในเครือของนิตยสาร "ดิ อีโคโนมิสต์" ระหว่างเดือน ก.พ. ถึง มี.ค. 2021
เหตุผลสำคัญที่ทำให้เมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งมีประชากร ราว 1.4 ล้านคน ได้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด นั่นเป็นเพราะ ส่วนสำคัญจากความสามารถในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อลดต่ำลง และส่งผลให้มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น และนั่นทำให้ ชีวิตของคนในเมืองโอ๊คแลนด์ กลับมาใช้ได้ตามปกติเร็วกว่าเมืองอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ ปัจจัย การสำรวจและจัดอันดับของศูนย์วิจัย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit - EIU) มีตัวชี้วัด หลักๆ 5 ด้าน นั่นคือ 1 เสถียรภาพของประเทศ, 2. สาธารณสุข, 3. การศึกษา, 4. วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และ 5 โครงสร้างพื้นฐานเมือง และดูภาพรวม ประเมินจากเมืองทั่วโลก 140 เมือง
10 อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดโลก
โดยจากการอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรก จากการสำรวจและจัดอันดับของศูนย์วิจัย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit - EIU) มีดังนี้
อันดับ 1 : โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ (96.0)
อันดับ 2 :โอซาก้า ญี่ปุ่น (94.2)
อันดับ 3 : อดีเลด ออสเตรเลีย (94.0)
อันดับ 4 :เวลลิงตัน นิวซีแลนด์ (93.7)
อันดับ 5 :โตเกียว ญี่ปุ่น (93.7)
อันดับ 6 : เพิร์ธ ออสเตรเลีย (93.3)
อันดับ 7 :ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ (92.8)
อันดับ 8 ร่วม : เจนีว่า สวิตเซอร์แลนด์ (92.5)
อันดับ 8 ร่วม : เมลเบิร์น ออสเตรเลีย (92.5)
อันดับ 10 : บริสเบน ออสเตรเลีย (92.4)
โดย จากผลสำรวจพบว่า เมืองจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ติดอันดับเข้ามา 6 จาก 10 อันดับเมืองน่าอยู่สูงที่สุด ขณะที่ เวียนนา ของประเทศออสเตรีย ซึ่งเคยเป็นแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในการสำรวจหลายๆครั้ง ต้องตกลงมาอยู่ที่ 12 ขณะที่เมืองที่ผลสำรวจอันดับร่วงลงมากที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้ นั่นคือ เมืองฮัมบวร์ก ของเยอรมนี ตกลงมา 34 อันดับ โดยหล่นจากอันดับ 13 ลงมาอยู่อันดับ 47
ทั้งนี้ เมืองในยุโรป และที่แคนาดา หลายเมืองมีการปรับอันดับ ลดต่ำลง จากการเผชิญกับการระบาดระลอกสองของโควิด-19 ทำให้ต้องมีการควบคุมการจัดกิจกรรมด้านกีฬาและวัฒนธรรม ปิดโรงเรียนและร้านอาหาร และสะท้อนมาจากการตัวเลขอันดับในแต่ละเมือง
10 อันดับเมืองน่าอยู่ "น้อย" ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ จากการสำรวจและจัดอันดับของศูนย์วิจัย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit - EIU) ยังได้วัดผลคะแนนเมืองที่น่าอยู่น้อยที่สุดในโลกด้วย โดยเมืองที่ครองแชมป์
อันดับ 1 : ดามาสกัส ซีเรีย
อันดับ 2 : ลากอส ไนจีเรีย
อันดับ 3 : พอร์ท มอเรสบี้ ปาปัวนิวกินี
อันดับ 4 : ธากา บังคลาเทศ
อันดับ 5 : อัลเจียส อัลจีเรีย
อันดับ 6 : ทริโปลี ลิเบีย
อันดับ 7 : การาจี ปากีสถาน
อันดับ 8 : ฮาเรเร่ ซิมบับเว
อันดับ 9 : ดูอาลา แคเมรูน
อันดับ 10 : คาราคาส เวเนซูเอล่า
ณ เวลานี้ กำลังมีให้วัคซีนซึ่งมีประสิทธิภาพแตกต่างกันทั่วโลก ศูนย์วิจัย อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต คาดว่า สิ่งที่จะเห็นในการสำรวจครั้งต่อไปคือ สภาพแวดล้อมในเมืองที่ยากจนน่าจะย่ำแย่ลง หากไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาใช้ป้องกันการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้