จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กนามว่า “มาม่า ปลากระป๋อง” ได้โพสต์ข้อมูลรายละเอียด เนื่องจากน้องชายที่กำลังศึกษาอยู่ช่างกลดังถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิต เผยตำรวจไม่รับแจ้งความและไม่มีความคืบหน้าในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงจากสถาบัน
ผู้ใช้เพสบุ๊ก “มาม่า ปลากระป๋อง” โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 64 ได้รับโทรศัพท์จากแม่ให้ไปดูน้องชายที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าน้องชายอยู่ในสภาพที่ร่างกายเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ มือและเท้าถูกมัดไว้กับเตียง เพราะอาการชัก เกร็ง ตาเหลือก (ร่างกายมีการฟกช้ำตามต้นแขนข้างซ้ายและมีแผลตรงบริเวณหน้าอก ) จึงสอบถามพยาบาลว่ารอยดังกล่าวเกิดจากอะไร พยาบาลได้ตอบกลับมาว่า เกิดจากการปั๊มหัวใจเป็นเวลานาน ซึ่งในวันเดียวกัน กลุ่มพี่ๆและเพื่อนๆ ได้เข้ามาเยี่ยมอาการของน้องชาย โดยให้เหตุผลว่า “อยู่ดีๆน้องช็อคและหมดสติไปเฉยๆ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล”
ต่อมาตนได้ตรวจสอบโทรศัพท์ของน้องชาย จึงพบข้อความในไลน์กลุ่ม มีช่วงหนึ่งระบุว่า “ที่น้องโดนเพราะน้องไม่ช่วยนายกตอบครับพี่ ที่พวกผมทำไปเพราะพวกผมอยากให้น้องช่วยๆกันครับ น้องไม่ได้โดนเพราะความสะใจครับพี่"
จากนั้นตนเริ่มสงสัย และได้สอบถามพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องที่อยากให้นิติเวชตรวจร่างกาย พยาบาลจึงระบุว่า ให้ไปพบตำรวจและบันทึกข้อความมา พี่ชายจึงได้เดินทางไปที่ สน. ปทุมวัน โดยมีร้อยเวรรับเรื่องและบันทึกข้อความไว้ให้ พี่ชายจึงได้นำเรื่องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลซึ่งทางโรงพยาบาลก็รับเรื่องไว้
ต่อมาในวันที่ 31พ.ค 64 เพื่อนๆของน้องชายเล่าว่า “น้องชายโดนเตะที่หน้าอก ซึ่งโดนกระทำจากรุ่นพี่” ตนและแม่ได้เข้าไปพบอาจารย์ที่สถาบัน เพื่อติดตามเรื่องที่เกิดขึ้นอาจารย์ได้เปิดกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดู แต่พบภาพแค่คนเดินเข้าเดินออก ไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อาจาร์ยจึงได้บอกว่าจะทำการสืบสวนเรื่องทั้งหมดให้ หลังจากนั้นกลุ่มรุ่นพี่ที่รู้เหตุการณ์มาพูดคุยกับทางตนและแม่เกี่ยวกับเรื่องราวที่น้องโดนกระทำ ตนจึงให้รุ่นพี่กลุ่มนั้นเข้าไปให้ปากคำกับ สน. ปทุมวัน แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ และให้ตนไปหาหลักฐานมายืนยันเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ทางพยาบาลได้แจ้งว่าเรื่องที่ส่งให้นิติเวชตรวจร่างกายของน้องชายนั้น ไม่สามารถทำได้ ให้เหตุผลว่า หมอนิติเวช ติดเชื้อ โควิด-19 ตนจึงย้ายน้องชายไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา แต่เมื่อย้ายมาถึง อาการของน้องชายก็ทรุดหนักลงและน้องชายของได้เสียชีวิตลงในวันที่ 5 มิ.ย 64 ญาติจึงนำศพของน้องชายมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ. บุรีรัมย์