ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ ไม่สามารถกำจัด "โควิด-19" ให้หมดสิ้นไปได้ จำเป็นต้องให้คนหมู่มากมีภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า
จากการติดตามการเปลี่ยนแปลงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าในปีที่แล้วสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยจะเป็นสายพันธุ์มาจากประเทศจีน ในขณะนั้นจากการตรวจจะพบว่าปริมาณไวรัสที่ตรวจพบในผู้ที่ติดเชื้อมีปริมาณ ไม่มากเท่าในปัจจุบัน การควบคุมระยะแรกเรามีมาตรการเต็มที่ ก็สามารถควบคุมได้
ต่อมาเมื่อการระบาดในและนอก 2 ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สายพันธุ์ได้พัฒนาเป็นสายพันธุ์ G หรือที่ระบาดมาจากแรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน การตรวจพบปริมาณไวรัสในผู้ป่วยก็ มีปริมาณเพิ่มขึ้น โรคก็ทำท่าที่จะควบคุมได้
การระบาดระลอก 3 เกิดขึ้น ปลายเดือนมีนาคมการระบาดครั้งนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ปริมาณไวรัสที่ตรวจพบในลำคอผู้ป่วยสูงมากจริงๆ จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายได้ง่าย และอย่างรวดเร็ว กว่าสายพันธุ์เดิมๆ ทำให้การควบคุมลำบากยิ่งขึ้นอีก
จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมได้ ปริมาณไวรัสที่มีจำนวนมาก ทำให้เกิดการแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่รวมกัน หรือในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งแตกต่างกับปีที่แล้วอย่างมาก
หมอยง ระบุต่ออีกว่า เราไม่สามารถที่จะกำจัดไวรัสโควิด19 ให้หมดสิ้นไปได้ ขณะนี้ทำอย่างไรที่จะให้ เราและไวรัสอยู่ด้วยกันได้ ก็ต้องหมายความว่าถ้าเรามีภูมิต้านทาน และไม่เกิดโรครุนแรง หรือเสียชีวิต และไวรัสก็ต้องไม่ทำร้ายเซลล์เจ้าบ้านที่ไปอาศัยอยู่ โดยกฎเกณฑ์จะต้องมีการเลือกตามทฤษฎีแห่งความอยู่รอด
ดังนั้นถ้าทุกคนมีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะเกิดจากการติดเชื้อ หรือจากการให้วัคซีน และถ้าติดเชื้อไวรัสแล้วไม่เกิดโรคหรือเกิดน้อยที่สุด อย่างเช่นไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆที่พบอยู่มากมาย ก็จะเป็นวิธีที่จะทำให้สงบลงได้ จึงมีความจำเป็นที่ให้คนหมู่มากมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน