ผู้ต้องขังติดโควิดเพิ่ม 499 ราย บางขวางยังหนักเจอหลักร้อย จนท.ป่วยเพิ่ม 16
ราชทัณฑ์ รายงาน พบผู้ต้องขังติดโควิด-19 เพิ่มอีก 499 ราย (รักษาอยู่ 14,787 ราย) เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรักษา 65 ราย เร่งวางแผนฉีดวัคซีนในผู้ต้องขังทุกรายให้เร็วที่สุด
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 499 ราย รักษาหาย 54 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,787 ราย มีเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ 12 แห่ง ดังนี้
1. เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อรายใหม่ 9 รักษาหายเพิ่ม 8 อยู่ระหว่างการรักษา 3,571 ราย
2. เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 42 อยู่ระหว่างการรักษา 2,308 ราย
3. ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 1,420 ราย
4. เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อรายใหม่ 91 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 2,374 ราย
5. เรือนจำพิเศษธนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 20 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 2,849 ราย
6. เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อรายใหม่ 85 รักษาหายเพิ่ม 4 อยู่ระหว่างการรักษา 172 ราย
7. ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 2 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 129 ราย
8. เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 383 ราย
9. เรือนจำกลางบางขวาง ติดเชื้อรายใหม่ 292 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 1,511 ราย
10. ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 67 ราย
11. เรือนจำพิเศษมีนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 1 ราย
12. เรือนจำกลางสมุทรปราการ ติดเชื้อรายใหม่ 0 รักษาหายเพิ่ม 0 อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย
รวม ติดเชื้อรายใหม่ 499 รักษาหายเพิ่ม 54 อยู่ระหว่างการรักษา 14,787 ราย
นายอายุตม์ฯ กล่าวถึงการประชุมของ ศบค.รท. ในวันนี้ (23 พฤษภาคม 2564) ว่าได้เน้นย้ำเรื่องการวางแผนฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังทุกรายเพื่อป้องกันเชื้อโดยเร็วที่สุด
โดยให้แต่ละเรือนจำและทัณฑสถานที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เร่งประสานกับโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่ทำการตรวจคัดกรองเชื้อในเจ้าหน้าที่ทุกรายและสุ่มตรวจผู้ต้องขังเพื่อยืนยันว่าเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนก่อน เนื่องจากจะไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ หากยังพบการแพร่ระบาดจนไม่สามารถแยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกันได้ชัดเจน
ทั้งนี้ ต้องพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนเป็นหลัก นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำไปยังผู้บริหารเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง หากมีความต้องการวัสดุ อุปกรณ์ใด ให้รีบประสานงานมาที่ ศบค.รท. เพื่อดำเนินการจัดสรรให้เพียงพอต่อการใช้งานต่อไป
พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตั้ง ศบค.รท.ขึ้น ทำให้การรวบรวมและรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานมีความคล่องตัว และเป็นระบบมากยิ่งขึ้น จนสามารถรายงานยอดผู้ติดเชื้อให้แก่ญาติผู้ต้องขัง ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ทราบอย่างทั่วถึง ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะนำเรียนสถานการณ์ความเคลื่อนไหวให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
โดยสามารถติดตามได้ที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ หรือ Line ID @thaidoc และวอนสังคมอย่าหลงเชื่อกระแสข่าวลวงจากแหล่งข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันจนอาจสร้างความตื่นตระหนกและสร้างความเสียหายได้
