“ราชทัณฑ์" เผย ยอดผู้ต้องขังติดโควิดรายใหม่ 523 ราย พร้อมฉีดวัคซีนวันแรก

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.00 นาฬิกา นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 523 ราย รักษาหาย 218 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,348 ราย 

เรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 12 แห่ง ดังนี้

• เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย รักษาหายเพิ่ม 12 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,575 ราย

• เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย รักษาหายเพิ่ม 205 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,352 ราย

• ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 29 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​ 1,422​​​​​​ ราย

• เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อรายใหม่ 158 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​​​​​​​2,283 ราย

• เรือนจำพิเศษธนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​​​​​​2,830​ ราย

• เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​​​​​91​​ ราย

• ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 26 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​​​​​​​127 ราย

• เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 384 ​​​​​​​ ราย

• เรือนจำกลางบางขวาง ติดเชื้อรายใหม่ 299 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,214 ​​​​​​​ราย

• เรือนจำพิเศษมีนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย รักษาหายเพิ่ม 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา ​​​​​​1​ ราย

• เรือนจำกลางสมุทรปราการ ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการ รักษา ​​​​​2​​ ราย

• ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย รักษาหายเพิ่ม 0 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 67 ​​​​​​​ ราย

รวมผู้ติดเชื้อรายใหม่ 523 ราย รักษาหายเพิ่ม 218 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 14,348 ​​​​​​​ราย

​​​​​​​

นายอายุตม์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ได้รับการตรวจเชื้อแล้ว จำนวน 37,288 ราย มีเรือนจำที่ตรวจครบ 100% เพิ่มอีก 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ส่วนเรือนจำอื่นๆ ที่ตรวจครบแล้ว ยังมีการ SWAB หาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อ รวมถึงการตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเรือนจำอื่นๆ และผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

 “ด้านความคืบหน้าในการดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในผู้ต้องขัง ในวันนี้ (22 พฤษภาคม 2564) กรมราชทัณฑ์จะเริ่มฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็นแห่งแรก จำนวน 1,500 ราย และตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกจนครบ 3,831 ราย ภายใน 1 สัปดาห์ โดยการสนับสนุนวัคซีนจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวค เพื่อฉีดแก่ผู้ต้องขังกลุ่มอายุต่ำกว่า 60 ปี และแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มสูงอายุ และกลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้วยความร่วมมือในการให้บริการฉีด โดยโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์” นายอายุตม์ กล่าว

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ศูนย์ CARE ประจำเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง รับผิดชอบในการประสานงานรวบรวมข้อมูลของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบเป็นการเฉพาะราย พร้อมทั้งแจ้งความคืบหน้าการรักษา และอาการป่วยของผู้ต้องขังให้ญาติทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นใดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติผู้ต้องขัง ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขังก่อนเสมอ