องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย จัดอยู่ในฐานะ “ตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวล” แล้ว หลังจากที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อ 22.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตทะลุ 240,000 คนไปแล้ว และปัจจุบันก็พบผู้ป่วยในไทยแล้ว
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าข้อมูลว่า โควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ B.1.617 ที่พบครั้แรกในอินเดียเมื่อเดือนตุลาคม 2020 ดูเหมือนจะแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม
"จากข้อมูลที่มีมาบางส่วนบ่งชี้ว่ามีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นของโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617 ด้วยเหตุนี้ เราจึงจัดให้มันอยู่ในฐานะตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลของโลก” มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ นักระบาดวิทยาด้านโรคติดต่อ และผู้นำฝ่ายเทคนิคของโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก แสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตีความผลการศึกษาดังกล่าวว่าตัวกลายพันธุ์อาจต้านทานการป้องกันจากวัคซีนได้มากกว่า
ปัจจุบัน อินเดิย กำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยในวันจันทร์ (10 พ.ค.) พวกเขารายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันมากกว่า 360,000 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 3,700 ราย
ณ เวลานี้ โควิดสายพันธุ์อินเดีย B.1.617 ถูกเพิ่มเติมเข้าไปในบัญชีตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลร่วมกับตัวกลายพันธุ์โควิด-19 อื่นๆ อีก 3 ตัว ประกอบด้วยตัวที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร บราซิลและแอฟริกาใต้
ทั้งนี้ ตัวกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 เหล่านี้ ถูกมองว่ามีความอันตรายมากกว่าไวรัสตัวดั้งเดิม ทั้งแพร่กระจายเชื้อง่ายกว่า มีความรุนแรงกว่าและสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีน
ล่าสุด ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ออกมายอมรับว่า ในประเทศไทย พบผู้ป่วยสายพันธุ์อินเดียรายแรกแล้ว เป็นหญิงตั้งครรภ์ เดินทางมาจาก ปากีสถาน และตอนนี้กักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ
ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดรายงานวิชาการ โดยระบุ ณ เวลานี้ มีพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์อินเดีย "ในอย่างน้อย 17 ประเทศ" แล้ว ซึ่งตัวเลข ณ ปัจจุบัน มีมากกว่า 20 ประเทศเข้าไปแล้ว และมีประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และสิงคโปร์ ด้วย