GISTDA (จิสด้า) ยืนยัน ซากจรวดจีน ที่กำลังจะตกสู่พื้นผิวโลก น้ำหนักราว 20 ตัน โดยไม่สามารถควบคุมได้ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. นี้ ไม่กระทบไทย เผยมีอัตราเสี่ยงแค่ 0.18%
จากกระแสข่าวที่จะมีเศษซากจรวด Long March 5B ของจีนกำลังจะตกสู่พื้นผิวโลก โดยไม่สามารถควบคุมได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า GISTDA ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และรายงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเป็นระยะ
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า จรวด Long March 5B ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 เมตร กว้าง 5 เมตร ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสบดีที่ 29 เม.ย.64 เพื่อส่ง module แรกของสถานีอวกาศจีน (Chinese Space Station: CSS) ที่มีชื่อว่า “เทียนเฮอ” (Tianhe) ที่คาดว่าจะสามารถปฏิบัติงานอย่างเต็มรูปแบบได้ใน ปี พ.ศ.2565 โดยชิ้นส่วนหลักของจรวดนี้มีน้ำหนักประมาณ 20 ตัน ถือว่าเป็นวัตถุอวกาศที่มีน้ำหนักมากที่กำลังตกกลับสู่โลก ซึ่งขณะนี้ 4 หน่วยงานได้มีการติดตามคาดการณ์ตกของจรวด ได้แก่ United States Space Command, ESA , Aerospace และ GISTDA ได้ประเมินและคาดการณ์ตรงกันว่าวัตถุอวกาศดังกล่าวจะตกสู่พื้นโลกในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค.64 ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ เวลาและตำแหน่งที่แน่ชัดจะแม่นยำขึ้นเมื่อชิ้นส่วนใกล้จะตกสู่โลกใน 1- 3 ชั่วโมง
จากการติดตามสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยระบบการจัดการจราจรอวกาศ หรือ เซอร์คอน (ZIRCON) ของ ASTRO Lab จะเห็นว่าวัตถุอวกาศที่กำลังตกลงมาจะมีเส้นทางการโคจรผ่านประเทศไทยเป็นประจำทุกวัน หากพิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ สำหรับประเทศไทยมีโอกาสเพียง 0.18% ซึ่งถือว่าน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม ทาง GISTDA จะติดตามและupdate ข้อมูลเพิ่มเติมและแจ้งให้ทราบโดยทันที
นอกจากนี้ เรื่องราวของวัตถุอวกาศที่ตกลงมายังพื้นผิวโลกนั้น มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มนุษย์ได้เริ่มมีการส่งดาวเทียม โดยทั่วไปแล้วชิ้นส่วนส่วนใหญ่ของดาวเทียมจะถูกเผาไหม้ไปกับชั้นบรรยากาศ แต่กรณีที่เป็นสถานีอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวเทียม จะมีชิ้นส่วนบางชิ้นเกิดการเผาไหม้ไม่หมดตกสู่พื้นผิวโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมากว่า 60 ปี ชิ้นส่วนจากอวกาศที่ตกลงมาสู่พื้นผิวโลกนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ให้ชีวิตและทรัพย์สินมากนัก
อย่างไรก็ตาม กฎหมายอวกาศหรือข้อตกลงทางด้านอวกาศ มีการกล่าวถึงรายละเอียดของการชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ โดยประเทศเจ้าของวัตถุชิ้นนั้น จะต้องเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวที่เกิดอีกด้วย