นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คาดสถานการณ์โรคโควิด-19 จะคลี่คลาย หากคุมการระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร - ปริมณฑล ได้ ยืนยัน ความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยขณะนี้ มีการสำรอง ยาฟาวิพิราเวียร์ ไว้ใช้งานในปริมาณที่เพียงพอ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง และมีแนวโน้มทรงตัว โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ในพื้นที่ชุมชนแออัดขนาดใหญ่ และยังพบการรวมตัวทำกิจกรรมเสี่ยง เช่น เล่นการพนัน เทียบไก่ชน เลี้ยงสังสรรค์ในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน สถานประกอบการไม่เคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข
“แนวโน้มการติดเชื้อจากการสัมผัสของคนในครอบครัวและเพื่อนเพิ่มสูงขึ้นจาก 53.54% ในสัปดาห์ก่อน และ 54.30% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่สัดส่วนการใส่หน้ากากถูกต้องยังสูงอยู่ที่ 98.14% หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันดีเชื่อว่าจะลดผู้ติดเชื้อลงได้ครึ่งหนึ่ง” นพ.โอภาส กล่าว
สำหรับคลัสเตอร์โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.พระสมุทรเจดีย์ ที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 160 ราย ต้นทางมาจากพนักงานแผนกซ่อมบำรุงชาวเมียนมาอายุ 38 ปี ที่แพร่เชื้อให้กับเพื่อนร่วมห้องชาวเมียนมา และเพื่อนร่วมงานชาวไทย หลังจากนั้นได้แพร่เชื้อต่อไปยังพนักงานและญาติในโรงงาน รวมถึงชุมชนใกล้เคียง
โดยพนักงานชาวเมียนมาที่อยู่หอพักของโรงงานมีการจับกลุ่มตั้งวงสังสรรค์เป็นประจำ และพนักงานชาวไทยบางส่วนเดินทางกลับต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ ขณะที่โรงงานไม่เคร่งครัดเรื่องมาตรการสุขอนามัย เช่น การสวมหน้ากาก ไม่มีจุดล้างมือ ตู้น้ำดื่มใช้แก้วร่วมกัน มีการทานอาหารร่วมกัน และผู้ป่วยต้นทางติดต่อหลายแผนก ทั้งนี้ได้ปิดโรงงานไปสองรอบ (22-24 เม.ย.64 และ 27 เม.ย.-3 พ.ค.64) และเตรียมตั้ง รพ.สนาม และ Factory Quarantine
ขณะที่ความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยขณะนี้มีการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ไว้ใช้งานในปริมาณที่เพียงพอ โดยช่วงปลายเดือน พ.ค. มีการสั่งซื้อยาเพิ่มเติมจากประเทศอีก 3 ล้านเม็ด และกำลังเตรียมผลิตยาใช้งานเอง ส่วนวัคซีนนั้นได้จัดสรรไปแล้ว 2.1 ล้านโดส โดยมีผู้ได้รับการฉีดเข็มแรก 1,106,071 ราย และเข็มสอง 392,546 ราย ขณะที่จำนวนเตียงว่างรองรับผู้ป่วยระดับสีแดง 951 เตียง สีเหลือง 8,626 เตียง และสีเขียว 14,192 เตียง