ล็อกดาวน์ 6 จังหวัด เมืองเศรษฐกิจสำคัญของไทย (เจ็บ) แต่...ขอให้จบ

เป็นที่แน่นอนแล้วว่ารัฐบาลตัดสินใจล็อกดาวน์ 6 จังหวัด ให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีผลในเร็ววันนี้ เพื่อคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้อยู่ แน่นอนอีกว่าการที่ทำเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจ การค้า ปากท้องประชนชนเพราะ 6 จังหวัด ดังกล่าวถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทยอย่างมาก แต่...จะทำไงได้เมื่อตอนนี้หลังชนฝาแล้ว

ทั้งนี้พื้นที่ 6 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดสูงสุด “สีแดงเข้ม” ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นพื้นที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยทั้งนั้น และมีประชากรอยู่ค่อนข้างหนาแน่น เป็นเมืองแห่งการค้า การลงทุน และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ ดังนั้นเมื่อล็อกดาวน์ 6 จังหวัด ไปแล้วก็เปรียบเสมือนรัดเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทยไว้ไม่ให้เดินได้เลย

กรุงเทพเมืองเศรษฐกิจหลักของไทยถูกล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เอกชนภาคธุรกิจได้นำเสนอรัฐให้ทำเช่นนี้ เพราะยอมเจ็บครั้งนี้ แต่ขอให้มันจบ ๆ ไป แต่ก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าเจ็บ แล้วมันจะยอมเจ็บง่าย ๆ หรือไม่ ? เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้เข้าขั้นโคม่าแล้วจริง ๆ บอบช้ำแล้วบอบช้ำอีกไม่รู้จะช้ำยังไงแล้ว ? ครั้งนี้ล็อกดาวน์ 6 จังหวัด ก็คงเพิ่มดีกรีความช้ำไปอีกเพราะเศรษฐกิจไทยปี 2564 หลายฝ่ายเริ่มออกมาปรับเป้าการเติบโตแล้ว ลดลงแล้ว ลดลงอีก เผลอ ๆ อาจมีติดลบด้วยซ้ำหากคุมสถานการณ์โควิด 19 ไม่อยู่

ล่าสุดกระทรวงการคลังหั่นเป้าจีดีพีปี2564 เหลือ 2.3% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 2.8% ส่วนนักท่องเที่ยวหดเหลือ 2 ล้านคน ลดลง 70% พร้อมชี้ว่ามีปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจมาจากเม็ดเงินพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท พร้อมกันนี้คาดว่าส่งออกโต 11% และจะเร่งสรุปออกมาตรการเยียวยาโควิดภายในเดือนพ.ค. 2564 นี้ เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจาก ‘นางสาวกุลยา ตันติเตมิท’ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 คาดว่า จะขยายตัวที่ 2.3% ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ 1.8-2.8%) ปรับตัวลดลงจากประมาณการเมื่อเดือน ม.ค. 2564 ที่ 2.8% ต่อปี ทั้งหมดเป็นผลสืบเนื่องมาจากโควิด 19 และการนี้ล็อกดาวน์ 6 จังหวัด 

ส่งออกไทยหนึ่งในคาดหวังฟื้นเศรษฐกิจ

ส่วนปัจจัยที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว คือ เม็ดเงินจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งล่าสุด 22 เม.ย. อนุมัติวงเงินไปแล้ว 7.6 แสนล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 85.4% ของวงเงินอนุมัติ ยังมีวงเงินเหลืออยู่ 2.37 แสนล้านบาท อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ต้องลุ้นและจับตาต่อไปว่าการนี้ล็อกดาวน์ 6 จังหวัด เซ่นโควิด 19 จะเจ็บ แล้วจบหรือไม่ ?