ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โควิด19 ทำแรงงานไทยหนี้ท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบสัญญา 85% เริ่มผิดนัดชำระหนี้ เงินออมหด 30% หวั่นตกงานสูงสุดในรอบ 5ปี ชี้หาก 3 เดือนไม่ฟื้น บัณฑิตจบใหม่ 5 แสนคนเตรียมแตะฝุ่น หางานยาก
โควิด 19 ทำทุกอย่างบนโลกใบนี้ปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องผู้คน ทำให้คนตกงาน ว่างงาน จำนวนมาก ทำให้คนหางานกันจำนวนมาก แรงงานไทยตอนนี้ก็ตกระกำลำบากไม่น้อย แม้ว่ากระทรวงแรงงานจะเร่งหาตำแหน่งงานว่างให้ก็แล้ว แต่...ในความเป็นจริงคนยังหางานกันอยู่จำนวนมาก เพราะตอนนี้ตลาดแรงงานไทยปั่นป่วนมาก แถมยังเป็นหนี้เป็นสินกันจำนวนมาก
ล่าสุด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าเงินสะพัดวันหยุดแรงงานหงอยหดตัว 19.7% ครั้งแรก เหลือ 1,793 ล้านบาท พร้อมชี้แรงงานไทยหนี้ท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบสัญญาแรงงานกว่า 85% เริ่มผิดนัดชำระหนี้ เงินออมหด 30% หวั่นตกงานสูงสุดในรอบ 5ปี ชี้หาก 3 เดือนไม่ฟื้น บัณฑิตจบใหม่ 5 แสนคนเตรียมแตะฝุ่น เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจาก ‘ผศ.ดร.ธนวรรน์ พลวิชัย’ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า ภาพรวมการจับจ่ายในช่วงวันแรงงานปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด. 1,793 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 10ปี ซึ่งปรับลดลง 19.7% จากปีก่อน และถือเป็นการหดตัวครั้งแรกจากที่เคยทำการสำรวจมากตั้งแต่ปี 2552 แสดงให้เห็นว่าคนหางาน กันจำนวนมาก
จับตาแรงงานไทยหางานยากขึ้น
ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าแรงงานไทยส่วนใหญ่ทำงานเท่าเดิม รายได้ไม่เพิ่ม อาชีพเสริมก็หด บางรายยังหางานอยู่ ทั้งยังประสบปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยรายละ 2.05 แสนบาทต่อคน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน เพื่อกู้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และกู้ใช้หนี้ ทำให้เงินออมลดลง 30% อีกทั้งแรงงานไทยเสี่ยงว่างงานสูงสุดในรอบ 5ปี โดยอัตราการว่างงานเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 1.6%ซึ่งอาจถือว่าเป็นอัตราไม่สูง เพราะไทยไม่มีการปลดคน และพยายามประคองการจ้างงาน แต่หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ต่อเนื่องไป 3เดือนก็อาจจะมีแรงงานกลุ่มบัณฑิตจบใหม่ออกมาอีก 5-7แสนคน ที่เสี่ยงจะออกมาแล้วหางานทำไม่ได้
ขณะที่ ‘นางอุมากมล สุนทรสุรัติ’ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า ส่วนใหญ่ชี้ว่าระดับรายได้ก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ยังมีอัตราเท่าเดิม และ 67.6%ไม่มีเงินออม นอกจากนั้น 78.6% ไม่มีรายได้จากอาชีพเสริมที่หลายคนพยายามหางานเพิ่ม โดนแรงงานส่วนใหญ่ 98.1% ระบุว่ามีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้นกว่าปี2562 ซึ่งมาจากการกู้เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นำมาลงทุน กู้ยืมเพื่อนำมาใช้หนี้เงินกู้ จ่ายค่ายานพาหนะ และเป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนหนึ่งกู้มาเพื่อใช้เป็นค่าการศึกษา เพื่อพัฒนาตนเอง
สำหรับภาระหนี้ต่อคนเพิ่มขึ้นเป็น 205,809.81 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 29.56% ซึ่งแบ่งเป็นการกู้ในระบบ 71.6%และนอกระบบ 29.56% ซึ่งมีเหตุมากจากรายได้ไม่พอรายจ่าย แถมบางคนหางานไม่ได้ เพราะภาระหนี้สูงขึ้น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น ดอกเบี้ยสุงขึ้น และมีแรงงานส่วนใหญ่ถึง 85.1% ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อสำรวจสถานะทางการเงินของแรงงาน จากพฤติกรรมการใช้เงิน พบว่า มีแรงงานที่มีการใช้มากกว่ารายได้ 19.9% ซึ่งสัดส่วนการใช้ส่วนใหญ่จะนำไปเป็นค่าอาหาร ใช้หนี้่ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเลี้ยงดูบุตร และมีส่วนหนึ่งที่กู้ไปใช้เพื่อการศึกษา
นี่คือเรื่องราวของแรงงานไทย ในยุคโควิด 19 ที่จะต้องหางานกันยากขึ้น จากการที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล หลายบริษัท ก็มีคำแนะนำว่า เด็กจบใหม่ หรือคนที่กำลังหางานทำอยู่ในตอนนี้ ตอนเพิ่มทักษะตัวเองให้มีความรู้ที่หลากหลาย ทันต่อโลก ต่อนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนไป ไม่เรียกเงินเดือนสูงจนเกินไป ขยัน อดทน และหาความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ที่สำคัญตัวนำเสนอจุดเด่น และความสามารถตัวเองให้ดีในวันสัมภาษณ์งาน