svasdssvasds

จับ “พญาธรรมิกราช” เจ้าสำนักลวงโลก ตั้งกองทุนช่วยโควิด 19 ตุ๋นเหยื่อ 400 คน

จับ “พญาธรรมิกราช” เจ้าสำนักลวงโลก ตั้งกองทุนช่วยโควิด 19 ตุ๋นเหยื่อ 400 คน

บุกจับ “พญาธรรมมิกราช” ภิกษุณีเจ้าสำนักเถื่อนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม จัดตั้งกองทุนผ้าป่าช่วย โควิด 19 ถวายเงินแลกเป็นทอง ตุ๋นเหยื่อกว่า 400 ราย มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท

กรณีพบผู้เสียหายรวมกว่า 100 คน ในพื้นที่ จ.นครพนม ร่วมทำบุญกับสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม ออกอุบายว่าเป็นพระธรรมมิกราช ในร่างของภิกษุณี ลงมาโปรดมนุษย์ ขอให้ทุกคนช่วยกันทำบุญผ้าป่าเริ่มต้น กองละ 3,555 บาท จากนั้นจะได้รับค่าตอบแทนเป็นทองคำ 1 สลึง ทำให้มีกลุ่มลูกศิษย์หลงเชื่อนำเงินมาถวายจำนวนมาก สุดท้ายไม่ได้ทองคำและเงินสดนั้น
 

ล่าสุด วันที่ 27 เมษายน 2564 เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม นำทีมฝ่ายปกครอง และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์อำเภอเมืองนครพนม เข้าจับกุม น.ส.อิสรีย์ หรือพญาธรรมมิกราช อายุ 49 ปี ผู้แอบอ้างตนเป็นภิกษุณี เจ้าสำนักสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนาพระพุทธสิกขี ตั้งอยู่ บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน

จากการเข้าตรวจสอบ พบตัว น.ส.อิสรีย์ หรือพญาธรรมมิกราช แต่งกายในคล้ายสงฆ์ห่มกายด้วยจีวรสีเหลือง นั่งบนเก้าอี้ในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ และเรียกสรรพนามแทนตัวเองว่าอาตมา พร้อมอ้างตนว่าเป็นอรหันต์ แรกๆพูดเป็นภาษาอังกฤษทำทีเป็นพูดไทยไม่ชัด และแสดงธรรมเทศนาโปรดเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องใช้การเจรจานานกว่า 10 นาที จึงยอมให้จับกุมตัวแต่โดยดี โดยยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกงและไม่มีส่วนรู้เห็น ถ้าผู้เสียหายต้องการเงินคืน บอกเลยว่าไม่มีเงินคืนให้

 

ทั้งนี้ตลอดเวลาที่พูดคุยนางสาวอิสรีย์จะอ้างตนเป็นพระอรหันต์ชั้นสูงที่มาโปรดพุทธศาสนิกชน เพื่อพาไปสู่เส้นทางแห่งความสงบ ก่อนเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนในข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน และขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี

 

สำหรับพื้นที่สำนักดังกล่าว มีเนื้อที่กว่า 7 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารสถานที่ปฏิบัติธรรม พระพุทธรูปจำนวนมาก รวมถึงมีแม่ชีอีก 2 รูปที่ดูแลในวัด แต่อ้างไม่รู้เห็น และไม่เกี่ยวข้องเพียงมาปฏิบัติธรรมเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมภายหลัง

 

ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า น.ส.อิสรีย์ หรือพญาธรรมมิกราช ที่ตั้งตนเป็นภิกษุณี แต่ไม่ได้รับการอนุญาตตามระเบียบของศาสนา และมีการตั้งสำนักปฏิบัติธรรม เพื่อแสวงผลประโยชน์จากชาวบ้าน ด้วยการ ตั้งกองทุนผ้าป่าช่วยเหลือโควิด 19 โดยมีการมอบหมายให้สายบุญ เดินสายตระเวนเหยื่อในพื้นที่อำเภอต่างๆ ร่วมบริจาคทำบุญกองผ้าป่า กองละประมาณ 3,500 บาท และมีผลตอบแทนคืนกำไรสูงเป็นเงินสดบ้าง รวมถึงทองคำรูปพรรณ ทำให้ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อซื้อกองทุนผ้าป่ามากขึ้น สุดท้ายไม่ได้ผลตอบแทนคืน และไม่ได้ตามข้อตกลง

 

อย่างไรก็ตามวันนี้เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาความผิดฉ้อโกงประชาชน และจะได้สอบสวนขยายผลในฐานความผิดอื่นๆ รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่า จะมีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อเอาผิดตามกฎหมายต่อไป แต่ในเบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่อ้างเป็นพระภิกษุณีตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม นอกจากนี้ยังมีการจับกุมแม่ชีอีก 2 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการทำหน้าที่เดินสายหลอกชาวบ้าน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี

related