svasdssvasds

สรุปให้! ดราม่า "อาจารย์น้องไนซ์" ทฤษฎี "เชื่อมจิต" ความเชื่อที่ต้องใช้สติ

สรุปให้! ดราม่า "อาจารย์น้องไนซ์" ทฤษฎี "เชื่อมจิต" ความเชื่อที่ต้องใช้สติ

สรุปให้! ดราม่า "อาจารย์น้องไนซ์" นิรมิตเทวาจุติ "เชื่อมจิต" ได้จริงหรือ ศรัทธา ความเชื่อ หรืองมงาย ฝ่ายไม่เห็นด้วยมองว่า สังคมกำลังเกิดความสับสนและแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของสังคมไทย ซึ่งขาดที่พึ่งและต้องการหาที่พึ่งทางใจ มองว่าเป็นการประดิษฐ์ธรรมะขึ้นมาใหม่

ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก กับกลุ่มผู้ศรัทธา "อาจารย์น้องไนซ์" หรือ ด.ช.นิรมิต วัย 8 ขวบ ผู้ที่อ้างตนเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช มีความสามารถในการ "เชื่อมจิต" และ "หยั่งรู้" เรื่องราวต่างๆ ทั้งอดีตและอนาคต รวมถึงเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกเล่าจากปากพ่อแม่ ทำให้เขามีผู้ติดตามทั้งผ่านช่องทางโซเชียลฯ และที่เดินทางไปร่วมฟังเขาถ่ายทอดคำสอนตามจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมาก 

จุดเริ่มต้น-ที่มาที่ไป “อาจารย์น้องไนซ์” เชื่อมจิต

เรื่องราวของ “น้องไนซ์” เริ่มเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง จากคลิปวิดีโอ “กิจกรรมเชื่อมจิต” อันแสนแปลก ที่มีผู้ใหญ่จำนวนมาก ก้มกราบเด็กวัยแค่ 8 ขวบ และเหตุการณ์ที่ “น้องไนซ์” ยกแก้วน้ำราดลงบนศรีษะของหนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม จนกลายเป็นไวรัล

ซึ่งภายหลัง แม่ของน้องไนซ์ออกมาชี้แจงคลิปดังกล่าวว่า เกิดจากการ "เชื่อมจิต" ของน้องไนซ์กับผู้เข้าร่วมรายดังกล่าว ที่รู้สึกไม่สบายใจและนึกอยากให้น้องรดน้ำให้ แต่น้องไนซ์กลับรับรู้จิตของบุคคลนั้นได้โดยที่เขาไม่ต้องบอกกล่าว จึงเอาน้ำราดลงบนหัวของอีกฝ่าย ทำให้เจ้าตัวรู้สึกยินดีมาก ทำให้ผู้เข้าร่วมรายอื่นๆ จึงสนใจอยากให้น้องรดน้ำให้ด้วยเช่นกัน

เรื่องราวความมหัศจรรย์ของ “น้องไนซ์” ถูกถ่ายทอดจากแม่ถึงชาติกำเนิดว่า ก่อนท้องแม่ฝันเห็นแสงสีขาวพุ่งลงมากลางห้อง จากนั้นถึงวันอาสาฬหบูชา แม่เจ็บท้องคลอด ทั้งที่อายุครรภ์เพียง 6 เดือนเท่านั้น จนวันเข้าห้องคลอด แม่ก็เห็นคนนุ่งขาวห่มขาวมาตามดูไม่ห่าง

จนน้องไนซ์อายุ 3 ขวบ เริ่มสอนพ่อแม่ให้ทำสมาธิ ทำจิตปล่อยวาง ก่อนบอกพ่อกับแม่ว่า ตัวเองคือ “องค์เพชรภัทรนาคานาคราช” อวตารลงมาเกิด โดยได้รับภารกิจจาก “พระศากยมุนี” พระพุทธเจ้า เพื่อให้ช่วยฟื้นฟูศาสนาบนโลกมนุษย์

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวจึงตั้งกลุ่มนิรมิตเทวาจุติ เผยแผ่ธรรมะบนโลกออนไลน์ ทั้งลงคลิป ไลฟ์ ในการพูดคุยธรรมะ ผ่านทั้งช่องทาง TikTok ยูทูบ เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์โอเพนแชต จนเกิดเป็น “อาจารย์น้องไนซ์” มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดยทุกครั้งที่สอนนั่งสมาธิ อาจารย์น้องไนซ์ จะ “เชื่อมจิต” ส่งไปยังแฟนคลับ

อยากเข้าร่วมคอร์ส “เชื่อมจิต” ต้องเสียเงินกี่บาท

หลังชื่อเสียงของ “อาจารย์น้องไนซ์” เป็นที่กล่าวขาน มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น คอร์ส “เชื่อมจิต” จึงเกิดขึ้น โดยแบ่งเป็น 4 แพ็กเกจ

  1. แพ็กเกจที่ 1 : ไม่รวมที่พัก ราคา 1,900 บาท พร้อมกาแฟและอาหารกลางวัน
  2. แพ็กเกจที่ 2 : รวมที่พัก 1 คืน ราคา 3,000 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า
  3. แพ็กเกจที่ 3 : รววมที่พัก 2 คืน ราคา 4,100 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า
  4. แพ็กเกจที่ 4 : พิเศษ รวมที่พัก 2 คืน ราคา 4,200 บาทต่อคน ห้องมาตรฐาน 1 ห้อง พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า รวมค่าเดินทาง (รถบัส) หากจะพักคนเดียวชำระเพิ่มอีก 1,200 บาท

คอร์ส “เชื่อมจิต” ต้องเสียเงินกี่บาท

อย่างไรก็ตาม บัญชีปลายทางที่ใช้รับเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินจากการจัดกิจกรรมหรือเงินบริจาค กลับไม่ใช่บัญชีที่ตั้งขึ้นในนามองค์กรหรือมูลนิธิ แต่เป็นบัญชีส่วนตัวของนายแพทย์รายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเฉพาะทางด้านการพัฒนาเด็ก ทันทีที่มีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือทำผิดกฎเหล็กที่ห้ามส่งสลิปเข้ากลุ่มเพื่อแจ้งยอด คนเหล่านั้นจะโดนลบออกจากกลุ่มทันที

กลายเป็นดราม่า เมื่อมีคนไม่เห็นด้วยเรื่องการ "เชื่อมจิต"

ถึงแม้ว่าจะมีผู้ศรัทธาในตัว “อาจารย์น้องไนซ์” เป็นจำนวนมาก แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่เห็นต่าง โดยเฉพาะที่ “น้องไนซ์” ให้สัมภาษณ์ว่า พระพุทธเจ้าสอนธรรมมะมีการเชื่อมจิต เป็นการสอนในสมาธิ เพราะยุคนั้นไม่มีไมโครโฟน คนมาฟังเป็นร้อยเป็นพัน ถ้าไม่สอนในจิต จะได้ยินได้ยังไง คิดกันบ้างสิ

แพรรี่ ไพรวัลย์ ตอบปมดราม่าน้องไนซ์บอกพระพุทธเจ้าสอนคนเป็นร้อยเป็นพันด้วยการเชื่อมจิต ว่า ไม่มีการเชื่อมจิตใดๆ การสอนธรรมกับคนจำนวนมากของพระพุทธเจ้า เป็นการสื่อสารจำเพาะระหว่างพระองค์กับกลุ่มสาวกบริษัท ที่ได้รับการฝึกหัดด้วยพระธรรมวินัยอย่างดี ไม่ใช่เรื่องการเชื่อมจิต

จากกรณีที่เกิดขึ้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เตรียมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคำสอนของน้องไนซ์ เทวานิรมิตจุติ เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่อ้างว่าเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช และสามารถเชื่อมจิตได้ หากพบว่า สิ่งที่น้องไนซ์พูดมีการบิดเบือนหรือไม่ถูกต้องกับหลักคำสอน ก็จะขอให้พระวิปัสสนาจารย์ มาอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจาก พศ.ไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการได้ ปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องความเชื่อและความศรัทธา

ขณะนี้เกิดความขัดแย้ง มีการแบ่งประชาชนออกเป็น 2 ฝ่าย คือ กลุ่มสนับสนุน และกลุ่มที่คัดค้าน โดยเบื้องต้น พศ.ได้ติดต่อพระวิปัสสนาจารย์ คือ พระอาจารย์พยอม กัลยาโณ หรือพระราชธรรมนิเทศ วัดสวนแก้ว เพื่อให้ข้อมูลหลักธรรมที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันได้รวบรวมข้อมูลการตัดต่อภาพน้องไนซ์กับรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อดำเนินการเอาผิดต่อไป

หลักการปฏิบัติของศาสนาพุทธ คือ การพึ่งพาตนเอง การใช้สติในการไตร่ตรอง และการปฏิบัติ ซึ่งเรื่องศรัทธาและความเชื่อที่บิดเบือนมีมาตลอด ดังนั้น ต้องอาศัย พระวิปัสสนา ที่กล้าแสดงความเห็นอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา เพราะสำนักงานพุทธฯก็เป็นฆราวาส ไม่สามารถจัดการได้

ด้านนายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า ทราบข่าวว่ามีกลุ่มคนได้เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งประเด็นนั้นตนไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ประเด็นที่มีการติดตามเพจดังกล่าวและข้อมูลมาระยะหนึ่งนั้น พบว่า

เป็นเรื่องที่น่าห่วงในสังคม เนื่องจาก ตนได้เฝ้ามองมาระยะหนึ่งแล้ว สังเกตได้ว่าสังคมไทยมีกลุ่มคนส่วนหนึ่งไปอุปโลกน์เด็กอายุประมาณ 7-8 ขวบขึ้นมาว่า เป็นผู้รู้ทางด้านพระพุทธศาสนา เป็นผู้สอนศาสนา เป็นผู้สอนในการนั่งสมาธิ เป็นผู้รู้ในเรื่องอริยสัจสี่ รู้เรื่องเกี่ยวกับพระศรีอารยะ ฟังทุกคลิปมั่วทุกคลิปผิดหลัก ซึ่งเรื่องของการศรัทธาการเคารพเราไม่ว่ากัน แต่อย่าหลงประเด็นในคำสั่งสอนว่าเป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะมันไม่ใช่


นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ฟังมาในเรื่องการสอนการนั่งสมาธิ เป็นการสอนผิด เพราะในหลักคำสอนของศาสนาพุทธไม่มีคำว่าเชื่อมจิต พระพุทธเจ้าสอนในเรื่องอานาปานสติ เท่าที่ดูน่าจะเกิดจากการที่ผู้ใหญ่น่าจะเอาข้อมูลและคำสอนที่ผิดไปใส่ในสมองเด็กเพราะผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่องธรรมะ

เมื่อเอาความรู้ที่ผิดไปใส่สมองให้เด็ก เด็กออกมาสอนก็เอาที่ผิดออกมาพูดด้วย และมีคำสอนแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย และเท่าที่ทราบ ดูแล้วผู้ใหญ่เหล่านี้มีการจัดให้มีการสอนเชิญไปอบรมตามโรงแรมต่างๆ และมีการคิดเงินด้วย และสังคมกำลังเกิดความสับสนและแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของสังคมไทย ซึ่งขาดที่พึ่งและเข้าหาที่พึ่งทางใจ มองแล้วเป็นการประดิษฐ์ธรรมะขึ้นมาใหม่ เช่น เรื่องการเชื่อมจิตเพราะในพุทธศาสนาไม่เคยมีการสอนเรื่องเชื่อมจิตเพราะมันไม่มี และการนั่งสมาธิเห็นนั่นนี่ก็ไม่ใช่เรื่องจริง

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องอานาปานสติคือการกำหนดลมหายใจ ให้ใจเป็นสมาธิเพื่อให้เกิดปัญญา กลุ่มคนเหล่านี้อุปโลกน์เด็กขึ้นมาเอาศรัทธานำหน้า เอาปัญญาตามหลัง และนำสิ่งเหล่านี้ไปเผยแพร่ทั่วประเทศ และจะเกิดลัทธิวิปริตวิปลาสขึ้นมาใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related