svasdssvasds

นายกฯลั่น ถ้าคุม "โควิด" ไม่อยู่ อาจต้องใช้ยาแรง วอนโรงแรมให้ความร่วมมือทำ Hospitel

นายกฯลั่น ถ้าคุม "โควิด" ไม่อยู่ อาจต้องใช้ยาแรง วอนโรงแรมให้ความร่วมมือทำ Hospitel

นายกฯ พอใจ เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 ขอความร่วมมือโรงแรมทำ Hospitel ยืนยันจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด พร้อมขู่ยกระดับมาตรการใช้ยาแรง หากคุมไม่อยู่

 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 บางกอกอารีนา ว่าตนนั้นพอใจในการเตรียมความพร้อม และขณะนี้โรงพยาบาลสนามในกทม. สามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ 3,000 เตียง โดยในส่วนของโรงพยาบาลสนามจะเป็นพื้นที่ของผู้ป่วยสีเขียว หรือผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ตนขอให้ผู้ป่วยอดทน โดยหากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงจะต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น และจะนำผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

 รวมถึงมีการเตรียม Hospitel พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ทำเป็น Hospitel โดยขอให้เสนอความต้องการกลับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้มีการเลิกจ้างงาน พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการรับมือ แม้สถานการณ์ขณะนี้จะดูรุนแรง โดยตนขอประเมินสถานการณ์อีกระยะว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยหากสามารถควบคุมได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ เช่นการฉีดวัคซีน

 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ว่าในเรื่องของการนำเข้าวัคซีนได้ตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าไม่ได้มีความล่าช้า แต่ปัญหาคือวัคซีนทยอยเข้ามา และจะมีการฉีดเป็นระยะ โดยจะแจกจ่ายไปทุกจังหวัด ตามพื้นที่ความเสี่ยงและจากลำดับความสำคัญ ไม่ใช่วัคซีนเข้ามาแล้วบอกว่าฉีดเข็มเดียวพอ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงหากวัคซีนเข็มที่ 2 หากมีปัญหาในการส่งมอบ ซึ่งทั้งโลกก็มีปัญหาหมด

 ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำวัคซีนเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้แต่ต้องผ่านกติกา เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้นอกจากรัฐบาล เพราะต้องดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่นผลข้างเคียงในการฉีด และขอบคุณเอกชนที่พร้อมจะช่วยรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว และอยากให้ฟังข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางของรัฐ เนื่องจากบางครั้งมีความคิดเห็นหลากหลาย ทำให้ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลใด ทำให้เป็นปัญหา ตนไม่โทษใคร

 นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรตนก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่องในประเทศไทยที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน รัฐบาลนี้พร้อมดูแลแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด ตนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศมีปัญหาอะไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์อ่านได้แต่ขออย่าเชื่อทั้งหมด

 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงขึ้น ซึ่งเราทุกคนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตนก็รู้สึกเห็นใจประชาชนผู้มีรายได้น้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สธ. แนะผู้ป่วยโควิด-19 รอจัดหาเตียง ไม่ต้องโทรหาสายด่วนหลายแห่ง

• อนุทิน ยืนยันเร่งแก้ปมขาดเตียงรักษาโควิด-19 เชื่อ 1-2 วันดีขึ้น

• เช็กเลย! อัปเดตจำนวน "เตียง" รักษาผู้ป่วยโควิด ในโรงพยาบาล กทม.

 

related