ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ตัวแทนเครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ 13 องค์กร ยื่นหนังสือทวงถามอธิบดีดีเอสไอ เร่งตามจับ “กำพล วิระเทพสุภรณ์” ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียฯ ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ นาน 3 ปี ส่วนเส้นทางการเงินเอี่ยวบิ๊กข้าราชการยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมทวงถามอธิบดีอัยการคดีค้ามนุษย์ เพื่อขอทราบดุลพินิจ การสั่งคดีวิคตอเรีย ซีเครท
วันนี้ (8 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ตัวแทนเครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ 13 องค์กร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามตัว เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ในสถานบริการ วิคตอเรียซีเครท ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี
นายรณสิทธิ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ผ่านมาประมาณ 3 ปีแล้วที่ทางมูลนิธิฯ เข้าช่วยเหลือผู้เสียหายในสถานบริการดังกล่าว ซึ่งมูลนิธิฯ ยังคงติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้มาสอบถามดีเอสไอ เกี่ยวกับการติดตามตัว นายกำพล ผู้ต้องหาหลักในคดียังไม่ถูกจับกุมและอยู่ระหว่างหลบหนีไปต่างประเทศ จึงอยากให้ดีเอสไอ เร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว รวมทั้ง เรื่องการออกหมายแดง ดีเอสไอ ได้ดำเนินการอย่างไรแล้วบ้าง หลังจากนี้จะยื่นเรื่องให้กับ สำนักงานอัยการสูงสุด เร่งรัดเพิ่มเติมด้วย
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า คดีนี้ดีเอสไอ จัดชุดเฉพาะกิจติดตามตัวนายกำพล และมีการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เพราะคดีค้ามนุษย์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ ส่วนตัวผู้ต้องหาจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใดนั้นยังไม่ขอเปิดเผย แต่ทั้งนี้ก็ได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจสากล เพื่อพิจารณาออกหมายแดงประกาศตามจับแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา
ส่วนการเชื่อมโยงเส้นทางการเงินว่ามีข้าราชการหรือผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น ยืนยันว่าหากตรวจสอบพบก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้ส่งข้อมูลเส้นทางเงินข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งที่มีชื่อรับโอนเงินจากนายกำพล ไปให้ป.ป.ช. ตามที่ป.ป.ช.ร้องขอ
เครือข่ายต้านค้ามนุษย์หวั่นอสส.สั่งไม่ฟ้อง “เสี่ยกำพล”
อธ.อัยการค้ามนุษย์เดิมพันตำแหน่งไม่มีลักไก่ไม่ฟ้อง"เสี่ยกำพล"
สำหรับคดีนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การดำเนินคดีค้ามนุษย์กับ นายกำพล ผู้ต้องหาคนสำคัญ และ 2.การดำเนินคดีคัามนุษย์กับผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งแบ่งเป็น 3 คดี โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยแล้วทั้ง 3 คดี ส่วนคดีของนายกำพล อยู่ระหว่างพิจารณาสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถจับตัวนายกำพลไปสั่งฟ้องได้ นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างสอบสวนของดีเอสไอ เช่น คดีฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าขณะนี้ นายกำพล ได้หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมาในช่วงบ่ายนายรณสิทธิ์ ได้เดินทางเพื่อยื่นหนังสือให้อัยการสูงสุด โดยมีนายณัฏฐพงศ์ สุวรรณพาณิชย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ เป็นผู้มารับหนังสือ และได้มีการพูดคุยเพื่อตอบทุกข้อสงสัย
นายณัฏฐพงศ์ ได้เปิดเผยว่า กรณีของนายกำพลในเรื่องของอายุความจะยังไม่มีการนับอายุความจนกว่าจะได้สามารถนำตัวของผู้ต้องหามาได้ และในส่วนของผู้ต้องหาต้องการร้องขอความเป็นธรรมของคดี จำเป็นที่จะต้องเดินทางมาด้วยตนเอง ไม่สามารถให้ผู้อื่นมาขอความเป็นธรรมแทนได้ และจะนำเรื่องยื่นต่ออัยการสูงสุดต่อไป