ป.ป.ช.เผย ดีเอสไอ มอบสำนวนสอบสวนเส้นทางเงิน "เสี่ยกำพล" วิคตอเรียฯ โอนให้บิ๊กข้าราชการแล้ว ขณะที่ธนาคาร เจ้าของบัญชียังเงียบ เช่นเดียวกับอัยการ ที่ยังไม่ส่งเหตุผลสั่งไม่ฟ้อง "นิภา-ธนพล" ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ เดินหน้าขอทราบความเห็นอสส. ไม่ฟ้อง "นิภา-ธนพล" 23 มี.ค.นี้
วันนี้ 18 มีนาคม ที่สำนักงานป.ป.ช. นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี เปิดเผยว่า ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 1 ปีกับอีก 5 วันที่ตนเองในฐานะเป็นผู้ล่อซื้อการค้าประเวณีจากสถาบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท หลังสืบทราบว่ามีการค้ามนุษย์ภายในสถานประกอบการแห่งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 จึงยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ในข้อร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบในประเด็นแรกคือการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นการกระทำที่เข้าข่ายอาจจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และต่อมาจากการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทำให้พบหลักฐานการโอนเงินจำนวนเงินหลายร้อยล้านบาท จากบัญชีของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ไปยังข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเองสงสัยว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าอะไร ดังนั้น จึงร้องขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบเส้นทางเงินของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ป.ป.ช. เชิญตน เข้าให้การยืนยันเกี่ยวกับหลักฐานการโอนเงินจากบัญชี นายกำพล ไปยังข้าราชการของรัฐหน่วยงานหนึ่ง ที่แม้จะไม่ใช่ผู้รับผิดชอบโดยตรงกับคดีวิคตอเรียซีเครท แต่ก็ยังสงสัยเพราะหน่วยงาน นั้น รับผิดชอบคดีวิคตอเรียซีเครท และมายื่นติดตามความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563
นายรณสิทธิ์ เปิดเผยว่า จากการเข้าพบพนักงานสอบสวน ป.ป.ช.วันนี้ ได้รับทราบว่า คดีมีความคืบหน้าพอสมควร โดยในประเด็นแรก ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือขอทราบเหตุผมที่สั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ในข้อหาค้ามนุษย์ และขอให้ดีเอสไอ ถอนหมายจับบุคคลทั้งสอง
ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องเส้นทางเงิน ป.ป.ช.ได้รับสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ ที่สอบพบเส้นทางเงินจากวิคตอเรียซีเครท โอนไปยังนายกำพล และจากนายกำพล โอนไปยังข้าราชการระดับสูง แล้ว ขณะที่ธนาคารเจ้าของบัญชี ป.ป.ช. ทำหนังสือขอไปแล้ว แต่ยังไม่ส่งมา โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ เปิดด้วยว่า ในฐานะที่เคยยื่นขอทราบเหตุผลจากอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล รวมทั้งขอให้ดีเอสไอ ถอนหมายจับ บุคคลทั้ง 2 ตอนนี้ผ่านมาจะใกล้ 1 ปี 6 เดือน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท มีการค้ามนุษย์ ส่วนนางนิภา และนายธนพล เป็นผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยล่าสุดได้รับแจ้ง จากอธิบดีสำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ให้เข้าพบเพื่อสอบถามความคืบหน้าในวันที่ 23 มีนาคม นี้ ซึ่งส่วนตัวยังกังวลว่า อัยการอาจจะมีการสั่งไม่ฟ้องนายกำพล ด้วย เพราะยังไม่ได้คำตอบว่า อัยการมีการติดตามตัวนายกำพล กลับมาดำเนินคดีหรือไม่
นายรณสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การติดตามเรื่องนี้ เป็นไปตามพันธกิจการก่อตั้งมูลนิธิฯ มีวัตถุประสงค์หลักคือ ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย