ทางรอดเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลก ตอนนี้ คือ วัคซีนโควิด-19 เท่านั้น ที่จะช่วยต่อลมหายใจภาคธุรกิจให้ไปต่อได้ วันนี้จะพามาดูมุมของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับ 4 กุญแจดอกสำคัญ ไขทางรอดเศรษฐกิจไทย
นาทีนี้ต้องบอกคำเดียวความหวังของโลก และของไทย ที่จะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนชีพมาได้ คือ วัคซีนโควิด-19 เท่านั้น แต่ตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มฉีดวัคซีนโควิด -19 แล้ว รวมถึงไทยด้วย หากมองดูเศรษฐกิจโลกก็เริ่มโงหัวขึ้นมานิดหนึ่ง แต่...เศรษฐกิจไทยยังคงต้องหวังเพิ่งยาแรงเข้าช่วยอยู่
หนึ่งในมุมมองที่น่าสนใจ จากปากของ “กลินท์ สารสิน” ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บอกว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด และยังมีความท้าทายอีกหลายอย่างที่ประเทศไทยต้องเผชิญในปี 2564 นี้ เพราะหลายประเทศทั่วโลกมีการฉีด วัคซีนโควิด-19 กันไปมากพอสมควร ซึ่งถือเป็นผลดีกับการฟื้นตัวของเศรษกิจโลก ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนการเปิดประเทศที่ชัดเจน เพื่อรองรับการกลับมาของเศรษฐกิจ จึงฝากการบ้านไปถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่า เศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นแล้ว ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวดังกล่าวได้ทันหรือไม่
ทั้งนี้งานความงานเร่งด่วนในขณะนี้ คือ แผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด -19 ที่ชัดเจน โดยหอการค้าไทยเสนอ 4 แนวทางสำหรับเรื่องดังกล่าว ได้แก่
1) การกระจาย วัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึง โดยในภาคธุรกิจนั้น กลุ่มที่มีความเสี่ยงในธุรกิจบริการ ที่ต้องมีการติดต่อทั้งกับคนไทยและคนต่างชาติ ควรได้รับการฉีดเป็นลำดับต้น ๆ
2) รัฐต้องมีแผนกระจาย วัคซีนโควิด-19 ที่ชัดเจน เพื่อให้เอกชนสามารถบริหารจัดการธุรกิจ ให้สอดคล้องกับแผนการกระจายวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) เร่งฉีดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอกชนสามารถร่วมทำแผนการกระจาย วัคซีนโควิด-19 เพื่อให้เข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว และบริษัทที่มีกำลัง ก็ยินดีจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานเอง ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลอยู่ระหว่างจัดหาและกระจายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชน และสนับสนุนให้ภาคเอกชนจัดหา วัคซีนโควิด -19 เพื่อฉีดให้แก่พนักงานของตนเอง โดยสถานพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนนั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจความต้องการของสถานประกอบการ ซึ่งขณะนี้รวมได้ประมาณ 750,000 คน และคาดว่าทั้งหมดประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งเราจะนำปริมาณความต้องการนี้ ไปหารือกับภาครัฐในการจัดหาวัคซีน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศปลอดภัยต่อไป
4) การสื่อสารสร้างความมั่นใจ โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกันสื่อสารชี้แจงถึงความปลอดภัยของ วัคซีนโควิด-19 ซึ่งจะเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยให้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งหอการค้าไทยได้เข้าไปร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อผลักดันแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เรื่อง Vaccine Passport สำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย การวางแผนรองรับการเปิดประเทศ เรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) เรื่องการท่องเที่ยวคุณภาพสูง รวมไปถึงการประยุกต์ใช้ Happy Model หรือ โมเดลอารมณ์ดี มีความสุข (กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี แบ่งปันสิ่งดี ๆ
นอกจากนี้ยังได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้ว สิ่งเหล่านี้จะมีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด นอกจากนั้น ยังมีเรื่องเกษตรมูลค่าสูงที่จะต้องดําเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งการท่องเที่ยวคุณภาพสูงและเกษตรมูลค่าสูงจะเป็นจุดแข็งของประเทศที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป โดยหอการค้าไทยก็มีแนวทางในการส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง