เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โต้แชทหลุดไล่เด็กออก ยันแค่เตือนสติเด็กในสังกัด

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลัง น้องซีน สมาชิกวง Butterfly ได้ประกาศลาออกจากวง เนื่องจากปัญหาเจอก้อนเนื้อที่เข่า ทำให้ต้องเหลือสมาชิกในวงเพียงแค่ 4 คน โดยเจ้าของค่ายอย่าง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า "พี่ซีนไปไหนคะ ? คำถามนี้ค่ายได้ยินบ่อยมาก และก็ตอบทุกคนมาตลอดว่าน้องซีนต้องเดินทางไปรักษาเข่า เลยไม่ค่อยเห็นน้องที่ค่าย แต่ตอนนี้ทางค่ายต้องขออนุญาตชี้แจงทุกคนให้ทราบว่า ต่อไปนี้ Butterfly ได้หมดถ้าสดชื่น จะเหลือเพียง 4 คน คือ ได๋ เบบี้มายด์ สมายด์ และ อังเปา เพราะน้องซีนตรวจเจอก้อนเนื้อที่เข่า และหมอให้น้องพักและรักษาอย่างต่อเนื่อง น้องจึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดเดินตามความฝัน เพื่อรักษาเข่าให้หายขาด

พวกเราค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และขออวยพรให้น้องซีน สู้ๆและขอให้น้องรักษาเข่าให้หายเป็นปกติโดนเร็วที่สุด ค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟนคลับอันเป็นที่รักจะเข้าใจ และยังคงให้กำลังใจน้องๆ 4 สาว ที่เหลือ รวมไปถึงส่งกำลังใจให้น้องซีนหายไวๆและกลับมาเดินตามความฝันได้อีกครั้งในอนาคตนะคะ"

แต่ภายหลังกลับมีแชทหลุด เป็นบทสนทนาที่อ้างว่าสาวเจนนี่คุยกับศิลปินในสังกัด ระบุว่า "สิ้นปีนี้จะมีการคัดศิลปินออก 2 คนนะคะ เหตุผลอยากให้ทุกคน กลับมาทุ่มเทและเต็มที่กับหน้าที่มากกว่านี้ และเป็นเด็กน่ารักเหมือนเดิม จะดูโอ้ หรือ เกิร์ลกรุ๊ปมีสิทธิ์ โดนตัดออกทุกคน ที่พี่ต้องทำแบบนี้ เพราะช่วงนี้พี่ควบคุมทุกคนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน และมีหลายคนที่ทำตามใจตัวเองมากกว่าการรักษาโอกาสที่ได้รับ ต้องใช้วิธีเพื่อเป็นตัวอย่างให้น้องๆรุ่นต่อๆไปลงชื่อรับทราบ"

โดยล่าสุด เจนนี่ ก็ได้ออกมาชี้แจงอีกรอบพูดถึงเรื่องแชทหลุดว่า "ความจริงแล้วไม่ได้เรียกว่าแชทหลุด รู้อยู่แล้วว่าต้องออกสู่สาธารณะ ซึ่งแชทนี้เป็นแชทที่สอนเด็กๆในค่ายเท่านั้น ยืนยันไม่ได้ไล่ น้องซีน ออก ส่วนคนที่ออกจากค่าย DM นั้น อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งตัดสินว่า เด็กออกเพราะอะไร ซึ่งทุกคนมักจะมีเหตุผลของตนเอง ถ้าวันหนึ่งเด็กในค่ายเหลือ 2 คนสุดท้าย หรือเหลือแค่ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น คนเดียว เราก็จะทำเต็มที่ หากวันหนึ่งไม่มีค่ายได้หมดถ้าสดชื่นแล้ว เราต้องเอาตัวรอดด้วยการทำธุรกิจอย่างอื่นอยู่ดี โดยการทำอาชีพค่ายเพลง เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีเด็กเข้าๆออกๆ ถ้าเรารับกับปัญหานี้ไม่ได้ ก็อย่าทำค่ายเพลงเลยดีกว่า ตอนนี้เรามีครอบครัวและเด็กในค่ายเพลง DM ต้องดูแล ฉะนั้นเราจึงไม่ค่อยซีเรียสกับข่าว"