"ออสเตรเลีย" เริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทางข้ามพรมแดน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 28 ราย ในพื้นที่ชายหาดทางตอนเหนือของกรุงซิดนีย์ ระบุ "เป็นการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน"
มีรายงานข่าวว่า นางแกลดิส เบรีจิเกลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนในกรุงซิดนีย์ควรตื่นตัวในเรื่องนี้ โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้เรียกร้องประชนชนราว 1 ใน 4 ของทั้งหมด 1 ล้านคนที่อาศัยในพื้นที่ซึ่งพบการติดเชื้อในกรุงซิดนีย์ ให้อยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 3 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 28 ราย ในพื้นที่ชายหาดทางตอนเหนือของกรุงซิดนีย์ ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน (cluster) ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นอีก
เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้แสดงความกังวลว่า การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนอาจจะแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในกรุงซิดนีย์ เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของการติดเชื้อในครั้งนี้ได้
รัฐแทสมาเนีย ได้ประกาศปิดพรมแดนห้ามเข้ารัฐสำหรับผู้ที่เคยเดินทางไปยังชายหาดทางตอนเหนือของซิดนีย์ นับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนรัฐควีนส์แลนด์, วิกตอเรีย และเขตแดนทางตอนเหนือ ได้ขอให้ประชาชนที่เคยเดินทางไปยังชายหาดดังกล่าวให้ทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่รัฐเวสต์ออสตเรเลีย ได้ประกาศห้ามเข้ารัฐสำหรับผู้เดินทางทุกคนที่มาจากรัฐนิวเซาท์เวลส์
ปัจจุบัน ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนกว่า 28,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 908 ราย นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและถูกกักตัวอยู่ในโรงแรม