svasdssvasds

แบงก์ชาติโร่แจงมะกันไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน !

แบงก์ชาติโร่แจงมะกันไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน !

สิ่งที่ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยในตอนนี้นอกจากโควิด -19 แล้ว เห็นทีจะเป็นเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องทำเอาแบงก์ชาตินั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว เพราะเอกชนมีความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องนี้ แม้ว่าแบงก์ชาติจะใช้มาตรการต่าง ๆ นานาในการดูแล แต่สุดท้ายก็ถูกสหรัฐมองว่าไทยบิดเบือนค่าเงิน ไปติดตามตามเรื่องนี้กัน

หากใครที่ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 จะพบว่ามีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบอย่างแรงกับผู้ส่งออกไทย จะเรียกได้ว่าเข้ามาซ้ำเติมโควิด -19  ที่ภาคธุรกิจต้องเจอก็ว่าได้ จึงทำให้หน่วยงานที่ดูแลหลักเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องออกโรงงัดสารพัดมาตรการมาดูแลเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงปลายปีแบบนี้

แม้ว่า ธปท. หรือที่เรียกติดปากกันว่าแบงก์ชาติ จะออกมาทำหน้าที่พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยอุ้มค่าเงินบาท แต่ ... ก็ไม่วายที่จะถูกชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐประกาศให้ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะที่อาจบิดเบือนค่าเงิน จนทำให้สุดท้ายธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาชี้แจงด่วนว่าจะเข้าดูแลค่าเงินบาทเมื่อจำเป็นเท่านั้น

โดยเรื่องนี้ นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้สื่อสารและทำความเข้าใจกับทางการสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจการเงินของไทย รวมถึงสร้างความมั่นใจกับสหรัฐฯ ว่าไทยดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นและจะเข้าดูแลค่าเงินบาทเมื่อมีความจำเป็น เพื่อชะลอความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้รุนแรงเกินไปทั้งในด้านแข็งค่าและอ่อนค่า และไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด

สำหรับสาเหตุหลัก ๆที่ไทยถูกจัดอยู่ใน Monitoring List จากที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 20 พันล้านดอลลาร์ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากกว่าร้อยละ 2 ของ GDP ซึ่งเป็นเกณฑ์และเงื่อนไขภายใต้กฎหมายภายในของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันในรอบนี้ มีคู่ค้า 10 ประเทศที่จัดอยู่ใน monitoring list ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี อิตาลี สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ไทย และอินเดีย

อย่างไรก็ตามการที่ไทยถูกจัดอยู่ใน monitoring list ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนกับสหรัฐฯ ซึ่งภาคธุรกิจไทยและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินธุรกิจกันได้ตามปกติ และการประเมินดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินนโยบายของ ธปท. เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินภายในประเทศ รวมถึงการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ของธนาคารกลางและความจำเป็นของสถานการณ์ ก็ต้องจับตากันต่อไปว่าเรื่องเงินบาทแข็งค่าของไทยจะมีทางออกอย่างไรบ้าง ?

related