น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 เปิดใจ เหตุผลที่กล้าแสดงจุดยืนทางการเมืองเพราะ อยากเห็นคามเป็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นในประเทศไทย
น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ์ เจ้าของตำแหน่ง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ผู้ปลุกกระแสนางงามให้ก้าวข้ามคอมฟอร์ตโซน ด้วยการออกมา Call Out เรื่องการเมือง เพราะเธอนั้นรู้สึกว่าประเทศไทยยังไม่ได้เป็นประชาธิปไตยแบบแท้จริง
"ย้อนกลับไปหลายปีว่าแบบตั้งแต่สมัยก่อนเนี่ย ไม่มีใครออกมาพูดแบบนี้ ส่วนมากถ้าพูดก็เป็นกลาง แต่หนูถามกลับหน่อยนะในเมื่อปัญหามันอยู่ทางซ้ายอ่ะพี่ พี่จะยืนตรงกลางและบอกว่าเราต้องอยู่ตรงกลางนะคะ และคุณจะแก้ปัญหาได้ไงในเมื่อปัญหามันอยู่ทางด้านซ้าย คุณต้องพูดปัญหาสิ เมื่อคนที่รู้ปัญหาเขาจะได้แก้ถูกวิธี อย่าลืมนะคะประเทศไทยไม่ได้มีแค่เด็กอย่างเดียว มันยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ขับเคลื่อนประเทศของเรา"
"ดังนั้นพูดแล้วก็ให้เจาะจงและก็มีข้อมูลทุกครั้งหนูบอกว่าพูดต้องมีข้อมูลอย่าพูดอะไรก็ไม่รู้ไม่เอา แล้วการที่หนูมายืนตรงเนี่ยไม่ใช่ว่าหนูเพิ่งมาจะพูดหรือว่า Call Out เรื่องนี้นะ แต่หนูพูดในสิ่งที่หนูเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วหนูไม่ชอบอะไรที่มันแบบอยุติธรรม ทุจริต ดังนั้นแล้วหนูคิดตลอดเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันมีชื่อเสียงในฐานะอะไรก็ได้และวันเนี่ยเราดำรงตำแหน่งของนางงามหนูก็เลยมีสิทธิพูดเต็มที่ ว่าเนี่ยการเป็นนางงามจะต้องพูดในสิ่งที่สมควรพูด พูดเพื่อพัฒนา"
"เมื่อเราอยู่กับความเหลื่อมล้ำนานๆ เมื่อมีโอกาสพูดหนูพูดได้สุดเสียงเลยนะพี่ ทำไมคนถึงออกมาพูดอ่ะพี่ ถ้าสมมติว่าทุกสิ่งทุกอย่างเขาได้เพราะว่าตามสิทธิของเขา เขาจะออกมาพูดให้มันเสียเวลาชีวิตเขาทำไม พี่ดูสิสถานการณ์ตอนเนี่ยความรุนแรงนั่นคือสิ่งที่เราได้รับเพียงเพราะว่าเรามีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกับเขาและเราจะเรียกประเทศนี้ว่าประชาธิปไตยได้ยังไง
"แล้วดูสิ่งที่คนที่อยู่ในรัฐสภาพูดสิคำว่าเดี๋ยวก็รู้มันเป็นคำพูดที่สมควรพูดหรอคะ ไม่ต้องถามนะคะว่าชีวิตฉันพัฒนาขึ้นหรือเปล่า ชีวิตฉันพัฒนามาก ฉันมีอะไรเมื่อก่อน ดูทุกวันนี้ฉันทำงานได้ดังนั้นแล้วทำไมฉันจะไม่พัฒนา ฉันพัฒนาในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ฉันก็พัฒนาแต่สิ่งที่ฉันอยากให้พัฒนาและคนอื่นได้รับผลคือพัฒนาประเทศชาติ บางคนก็แบบมันดีอยู่แล้วจะไปแก้รัฐธรรมนูญทำไม และถ้ามันดีอยู่แล้วเมื่อก่อนจะแก้ทำไมก็แก้กันเก่งเหลือเกินจะแก้ทำไมหนูถามหน่อยก็มันไม่ได้ไงมันไม่ได้ก็เลยแก้"
"พร้อมมาตั้งนานแล้วค่ะ ประเทศชาติเรามันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่โกลาหลไหนแล้วพร้อมตั้งนานแล้วทุกวันนี้เขาเรียกร้องประชาธิปไตยกันแต่สิ่งที่คุณให้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย ทุกคนมีสิทธิมีเสียงมีความเท่าเทียมกันประชาธิปไตยของประชาชน คุณอยากพัฒนาประเทศคุณต้องฟังปัญหาจากประชาชน ประชาธิปไตยคือความเท่าเทียมกัน หนูยอมรับจะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เราพูด"
"แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาพูดต้องการจะสื่อสารอะไรเขาต้องการจะสื่อสารในเรื่องของการพัฒนา เขาต้องการจะสื่อสารในเรื่องสิทธิที่เขาควรจะได้ ไม่ใช่ว่าเขาออกมาสื่อสารและเขาต้องการจะฆ่าอีกฝ่ายนึง ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ใช่นะ แต่การที่เราพูดแล้วเขาไม่รับฟังนั่นคือประชาธิปไตยจริงแล้วหรือ ที่ร่างไปก็ ที่อยากให้ร่างไปก็ทิ้งหมดและคุณต้องการอะไรจากเรา การที่เราเลือกคุณไปเนี่ยมันเป็นประชาธิปไตย วันนึงที่คุณมีโอกาสได้นั่งตรงนั้นสิ่งที่คุณควรจะฟังคืออะไร คุณมโนเอง หรือคุณอยากจะฟังจากประชาชน"
"หนูอยากบอกกับทุกคนที่ออกมานะคะว่าคุณกล้ามากและคุณเก่งมากที่คุณทำแบบนั้น เพราะสิ่งที่คุณทำอยู่มันไม่ได้ทำแบบใครก็ได้ทำได้ คุณมีความกล้ามากเลยโดยเฉพาะเยาวชน หนูรู้ว่ามันอาจจะเหนื่อย มันอาจจะเจ็บ มันเจ็บอยู่แล้ว มันเจ็บอยู่แล้วในการที่เห็นบางสิ่งบางอย่างเอาจากเราไป ไม่ชอบในสิ่งนี้เราก็บอกได้เลยว่าสิ่งที่คุณทำในถูก"
"ถ้าไม่มีปัญหาคุณคงไม่ออกมาดังนั้นรัฐบาลใครก็ตามแหละที่อยู่ในเครือนั้นคุณต้องฟังอย่าลำเลิกบุญคุณที่แบบว่าฉันทำมา ฉันดีขนาดนี้ หรือฉันดีขนาดนี้ ทำไมเขาก็เหนื่อย ฉันก็เสียใจทุกวันนี้ที่เราเลือกคุณไปแล้วคุณไม่ทำอะไรเราก็เสียใจเหมือนกันนะคะอย่าลืม เราเจ็บเราเสียภาษีดังนั้นแล้วถ้าทำไม่ได้หรือไม่รู้จะทำอย่างไงออกเถอะค่ะ"