รอง ผบช.น. วางแผนรับมือม็อบ14 พ.ย. แบ่ง 3 โซน เข้ม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนถึง สนามหลวง
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย พร้อมด้วย พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงกรณีสถานการณ์การชุมนุม
พลตำรวจตรี กล่าวว่า จะมีผู้ชุมนุมในพื้นที่สำคัญ 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มแรกบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินกลาง ต่อเนื่องไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มนักเรียนเลวมีการนัดชุมนุมพรุ่งนี้ในช่วงบ่าย ยังไม่กำลังเวลาแน่นอน และมีแนวทางว่าจะเดินจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในท้องที่สน.นางเลิ้ง และสน.สำราญราษฎร์ต่อเนื่องกัน กลุ่มสองตั้งแต่เวลา 16.00-19.00 น. กลุ่มผู้หญิงปลดแอก จัดงานเฟมินิสต์ปลดแอกบริเวณแยกคอกวัว อยู่ในพื้นที่สน.ชนะสงคราม และกลุ่มที่ 3 MOB FEST จัดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น. ในพื้นที่สน.สำราญราษฎร์และสน.ชนะสงครามต่อเนื่องกัน ซึ่งกลุ่มนี้ได้มีการแจ้งขออนุญาตแล้ว
พลตำรวจตรี ปิยะ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดผู้รับผิดชอบเหตุการณ์แบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ โซนแรกบริเวณถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่บริเวณแยกพระรูป แยกจปร. แยกมัฆวาน ไปจนถึงแยกผ่านฟ้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีพ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาการผบก.น.1 เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อย ในพื้นที่ที่ 2 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยรอบ ตั้งแต่ถนนราชดำเนิน จนถึงสะพานผ่านภิภพ และสนามหลวง เป็นพื้นที่รับผิดชอบของพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 และจะมีอีกหนึ่งชุดในการแก้ไขปัญหากรณีมีผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ที่ได้พูดคุยกันไว้หรอจัดการชุมนุมที่อื่น โดยมีพล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลภาพรวม ทั้งนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 34 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย หรือประมาณ 5,100 นาย ซึ่งในเบื้องต้น จะไม่มีการวางเครื่องกีดขวาง แต่บางจุดจะมีการจัดแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจเตือน และจะยึดหลักสิทธิเสรีภาพ ใช้มาตรการไม่รุนแรงเป็นหลัก
ขณะที่ พันตำรวจเอก กฤษณะ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากไปยังผู้จัดการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ว่าการชุมนุมเป็นสิทธิของทุกคนตามกฎหมาย แต่ก่อนจะมีการชุมนุมอยากให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ดี มีสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขตามกฎหมาย เช่น การแจ้งการชุมนุม การทำให้การชุมนุมปราศจากอาวุธ และชุมนุมด้วยความสงบ ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น โดยจะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ไว้ โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่มีการชุมนุมกิจกรรมราษฎรสาสน์ ทาง พลตำรวจตรี ปิยะ เปิดเผยว่า มีการดำเนินคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นคดีของ สน.สำราญราษฎร์ ฝ่าฝืน พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ มีผู้ต้องหา 14 คน และส่วนที่ 2 คดีของสน.ชนะสงคราม เกี่ยวกับพ.ร.บ. ความสะอาด ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจเขตพระนคร ได้ร้องทุกข์ โดยมีการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว 3 คน เป็นคนเอาตู้ไปรษณีย์แดงเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเมื่อคดี พ.ร.บ. ความสะอาดเรียบร้อย จึงจะส่งหลักฐานไปยัง สน.สำราญราษฎร์ เพื่อตรวจสอบข้อความในจดหมายประกอบคดีความผิด ตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะต่อไป