svasdssvasds

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

ม้า อรนภา เปิดใจครั้งแรกผ่านรายการ ถามสุดซอย Weekend หลังไม่มีงานทำผานหน้าจอกว่า 2 เดือน ย้ำปวดใจหลังโดนบูลลี่เรื่องเพศสภาพ

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

พิธีกรฝีปากกล้าอย่าง ม้า อรนภา ออกมาเปิดใจครั้งแรกผ่านรายการ ถามสุดซอย Weekend ทางช่องเนชั่น 22 โดยมี หนุ่ม ศรราม เป็นผู้ดำเนินรายการ

ซึ่งทางด้าน ม้า อรนภา ได้เปิดใจครั้งแรกเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง ในช่วงเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังหลุดพ้นจากการทำงานบนหน้าจอโทรทัศน์ และห่างหายจากการเล่นโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงภาวะที่ต้องเผชิญกับมรสุมทัวร์ลงและตกงาน จากปกติที่ต้องทำงานทุกวัน วันนี้ชีวิตเธอเป็นอย่างไรบ้าง

 

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

เกือบ 2 เดือนแล้วที่หายไป ?

"จวนแล้ว ไม่ได้หายแค่หน้าจอ ไอจี กับเฟซบุ๊กก็หายด้วยเหมือนกัน ไม่ลงอะไร ไม่เล่นอะไรใดๆ ทั้งสิ้น"

 

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?

"ก็สบายดี"

ช่วงใหม่ๆ ที่เกิดเรื่อง ?

"ก็ต้องบอกว่าเสียใจ ที่มันเกิดขึ้น คนที่ทำงานตลอดทุกวัน ไม่เคยหยุดเลยนะตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ มาแต่งหน้าแล้วเป็นนางแบบ จนเล่นละคร เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยหยุดเลยสักวัน อยู่ดีๆ ก็โช๊ะ มันก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่ถามว่าเสียใจมากไหม เสียใจไม่มาก ก็ต้องขอบคุณตัวเองที่ได้ปฏิบัติธรรม ก็เลยทำให้รู้และเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น"

ตอนโดนบูลลี่หนักๆ อะไรที่รู้สึกแรงที่สุด ?

"การเอาเพศสภาพเข้ามาเป็นการบูลลี่ จริงๆ แล้วคำด่าหยาบคายเจอมาเยอะมาก ดิฉันโดนทัวร์ลงมาตั้งนาน หลายคดี เป็นคนตรงไปตรงมาและมักไม่ค่อยระวังคำพูดบางครั้ง เช่นมีอยู่ครั้งหนึ่ง เราพูดเรื่องการเล่นสงกรานต์ ตอนนั้นรัฐบาลบอกว่าไม่อยากให้ใช้รถกระบะและมีน้ำอยู่หลังรถกระบะแล้วสาดกัน เพราะมันอันตราย ขับไปคนอาจตกลงมาเสียชีวิตเกิดอุบัติเหตุได้ พิธีกรร่วมที่นั่งอ่านข่าวด้วยเขาบอกว่าเป็นวัฒนธรรม ดิฉันก็บอกว่าวัฒนธรรมเลวน่ะสิ แค่นั้นโดนด่าไป 4 วัน ตอนนั้นไปเที่ยวต่อช่วงสงกรานต์ ดิฉันไปตุรกี โปรตุเกส ก็ด่าดิฉันไปถึงตุรกี โปรตุเกส (หัวเราะ)"

ในความรู้สึกบางอย่างอาจถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ ?

"ก็น่าจะใช่ ดิฉันใช้คำตรงและแรง อาจไม่ถูกใจคนบางคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง รวมทั้งล่าสุดก็เหมือนเป็นการเตือน แต่เป็นคนที่ใช้คำอะไรตรงไปตรงมา ก็จะดูแรง”

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

โดนเรียกว่าลุงพรชัย ?

"อันนี้ที่อยากตอบ การด่ากันไม่เจ็บปวดหรอก ไม่ได้โดนเนื้อตัว โดนตบ โดนทิ่มแทง ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ แต่เรื่องการบูลลี่เรื่องเพศสภาพ ดิฉันว่าคนมาบูลลี่คุณเรียกร้องสิทธิมนุษยชน เห็นบางรายการคนเป็นพิธีกรนำก็เรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แต่ว่าการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนแบบนี้แล้วทำไมถึงทำเองซะล่ะ ทำไมเป็นผู้กระทำเอง ขณะที่คุณเรียกร้อง ดิฉันไม่เคยไปก้าวก่ายสิทธิมนุษยชนคนอื่น ในเรื่องส่วนตัวเขา เราไม่พูดเรื่องการเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอันนั้น เพราะดิฉันช็อก ตกใจ จึงต้องพิมพ์อะไรอย่างนั้นไป แต่ว่าเราไม่เคยทำในลักษณะแบบนี้ ถ้าทำไปแล้ว ทำไมถึงต้องใช้วิธีการแบบนี้"

สังคมปัจจุบันที่วัยรุ่นยุคใหม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แสดงพฤติกรรมและกิริยาออกมา ในสายตาพี่ม้ามองยังไง ?

"จริงๆ แล้วโลกต้องเปลี่ยนแปลงไปแน่นอน อย่างยุคของดิฉัน ก็เป็นยุคการเปลี่ยนแปลง พ่อแม่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน เป็นเรื่องที่สิ่งใหม่ๆ เข้ามา รุ่นดิฉันเป็นรุ่นพ่อแม่ที่มีลูก และมักสั่งสอนว่าแกต้องมีความคิดเป็นของตัวเองสิ แกอย่าดักดานสิ แกต้องรู้จักการแสดงออก เพราะเด็กสมัยก่อนไม่กล้า ผู้ใหญ่พูดอะไรก็ไม่กล้าพูด แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไป เด็กสมัยนี้เขาไม่ได้สัมผัสสิ่งที่ดิฉันสัมผัสมาในส่วนความเป็นอดีตกาล มันเลยลำบากอยู่พอสมควรเหมือนกัน เขาก็จะคิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันมีความคิดแบบนี้ ฉันสามารถเถียงได้ พูดได้ เลยเกินไปถึงความก้าวร้าว"

"คุณจะไม่นอบน้อมก็เป็นสิทธิที่คุณเรียกร้อง สิทธิส่วนบุคคล สิทธิมนุษยชน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องมีความเป็นไทยอยู่ เพราะเราจะไปเป็นฝรั่งผมทอง ตาฟ้าก็คงเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีกำพืดเก่าอยู่แล้ว ถึงคุณจะไปย้อมผมใส่คอนแทคเลนส์ยังไง กำพืดเราหนีไม่พ้น แล้วกำพืดที่เรามีอยู่เป็นสิ่งที่น่ารัก ฝรั่งเองซะด้วยซ้ำที่เขาชอบของเรามากนะ มันมีเอกลักษณ์ เจอกันก็ยกมือไหว้กัน เราถึงไม่ติดโควิดไง (หัวเราะ)”

สองเดือนที่หยุดงาน ถือว่าหนักสุดในชีวิตไหม ?

"ลงดิ่งเลยค่ะ ในวิถีชีวิตตัวเองลงดิ่งไปสุดเลย

สองเดือนที่อยู่ที่บ้าน ได้มีโอกาสใกล้ชิดคุณแม่มากขึ้น ?

"จริงๆ ทุกอาทิตย์เราต้องเจอกันอยู่แล้วเป็นธรรมดา ไม่เจอไม่ได้ คุณแม่อายุตั้ง 95 จะ 96 เยอะมากนะ แต่ยังแข็งแรง ความจำดีทุกเรื่องราว โชคดีของดิฉัน เป็นบุญของลูกที่มีแม่แบบนี้ (หัวเราะ)"

ช่วงที่ผ่านมา คุณม้ากับคุณยายต้องทำห่อหมกขาย แต่จริงๆ ไม่ใช่ ?

"คุณแม่ดิฉันเป็นช่างทำผมมาก่อน แล้ววันหนึ่งคุณแม่ก็ย้ายร้าน เราอยู่อาคารพาณิชย์ตลอด พอย้ายมาอีกฝั่งแกก็เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร พอหนี้สินของตึกหมดแล้ว แกก็เลิกทำร้านอาหาร เอาร้านเสริมสวยมาอยู่เหมือนเดิม แต่ข้างหน้าร้านแกก็ยังเอาขนมมาขาย เป็นขนมหวาน และมีขายห่อหมก เป็นของคาวที่เหลืออยู่ เราทำมานานมาก วันหนึ่งขนมหวานก็เลิกไป เหลือห่อหมก แกก็ทำมานานมาก จนกระทั่งช่วงที่ล็อกดาวน์ คนที่เป็นผู้ช่วยของแม่เขาขอลาออกเพื่อกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ดิฉันก็เลยบอกว่างั้นเลิกเลยแล้วกัน เพราะคุณแม่อายุ 90 กว่าแล้ว อย่าทำเลย ถ้าไม่มีผู้ช่วย อยู่คนเดียวแกก็เครียด ก็หยุดไปเลยไม่ได้ทำ"

"ดิฉันยังบอกว่าเอาซึ้งไปให้คนอื่นไหม น้องสาวบอกไม่เอา เก็บไว้ก่อน พอหลังจากที่เลิกล็อกดาวน์แล้ว ทุกอย่างเปิดให้ไปไหนมาไหนได้มากขึ้น น้องสาวเขาก็ทำผม แล้วร้านทำผมไม่ได้กลับมาดีเหมือนเดิม คนเริ่มประหยัดมากขึ้นต่างๆ นานา ดิฉันก็เลยบอกว่าอยากจะทำไหมห่อหมกกับแม่ เดือนละสองสามหนไหมเดี๋ยวรีวิวให้ เธอจะได้มีรายได้ แต่ตอนนั้นดิฉันยังไม่โดนไล่ออกจากการทำงาน ก็เลยลุกขึ้นมาทำกัน ตั้งแต่บัดนั้นก็เลยทำกันมา พอเริ่มทำก็เริ่มรีวิวให้เขา เขาก็ขายได้ ขายดี แต่มาขายดีเอามากๆ คิวจองไปถึงเดือน ก.พ. ปีหน้า ตอนทัวร์ไปลงห่อหมกแม่ดิฉันนี่แหละ”

ม้า อรนภา เปิดใจชีวิตหลังไม่มีงานทำ ปวดใจโดนบูลลี่

พี่ม้าอยากให้คุณยายมีอะไรทำแล้วไม่เฉา ?

"คือช่วงโควิดแล้วหยุดไป แม่ไปรพ.ทุกอาทิตย์เลย เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นโน่น แต่หลังจากที่มาทำ แกไม่ต้องไปรพ. เออ ดีเนอะ เหมือนแกไม่เฉา ได้ทำโน่นทำนี่"

ทัวร์ไปลงคุณยายได้ยังไง ?

"ก็คงพาลไปหมดมั้งคะ (หัวเราะ) น้องสาวเล่าให้ฟังว่าเช้ามาก็โทรมาด่ากันแล้ว จนต้องเอาโทรศัพท์ออกหมดเลย ตกใจ"

แต่ก็ยังมีคนอุดหนุนเพจ ?

"โอ้โห คนคงเห็นใจ"

อาจจะตรงกับช่วงพักงานด้วย ?

"เขาเรียกพักงานเหรอคะ ขอบพระคุณมากที่ใช้คำนี้ (หัวเราะ) ดูดีจัง เหมือนจะได้กลับไปอีก (หัวเราะ) คนคงเห็นใจ"

คุณยายทำห่อหมกอะไรบ้าง ?

"ห่อหมกปลาช่อนอย่างเดียว"

พี่ม้าเป็นนักสู้คนหนึ่ง ตั้งแต่ผมอายุ 17 รู้จัก 30 ปี พี่ม้าต่อสู้ทำงานด้วยความแข็งแรง ด้วยความแกร่งตลอด และให้คำสั่งสอนรุ่นน้องๆ มาตลอด ทำไมครั้งนี้เลือกไม่ตอบโต้อะไรเลย ?

"ตอบโต้ไปก็เท่านั้น เหนื่อยเปล่าๆ อาจเป็นเพราะว่าตลอดระยะเวลา 7-8 ปีได้แล้วที่เริ่มปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องเป็นราว”

เรื่องมูเตลูมีไหม ?

"มีบ้าง ต้องบอกว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น มีวิกฤตเกิดขึ้นในชีวิต เพื่อนๆ กัลยาณมิตรทั้งหลายเขาก็ชวนไปเที่ยวบ้าง ไปโน่นบ้าง ไปมูฯ บ้าง เยอะแยะเลย"

เวลาไปมูฯ ไหว้พระ ขออะไร ?

"ขอให้ได้กลับมาทำงาน คือทำงานมาตลอดชีวิต จนเพื่อนๆ บอกว่ามึงหยุดซะบ้างก็ดี ได้พักผ่อน เป็นต้น ทุกคนก็ยังสงสัยว่าเกษียณอายุไปขนาดนี้ ยังไม่หยุดอีกเหรอ"

นี่เกษียณแล้วเหรอ ?

"(หัวเราะลั่น) จ๊ะ ดิฉันรับเงินรัฐบาล 600 บาทต่อเดือน อยากกลับมาทำงาน แค่นั้นเอง เพราะคิดว่ายังแข็งแรงอยู่ ทำอะไรก็ได้ หลายๆ อย่างเลย อาจงานที่ตัวเองถนัดอยู่ ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะงานพิธีกรหรือทำรายการ กับงานที่ตัวเองถนัดเรื่องการทำเครื่องสำอาง ก็อยากเปลี่ยนไปเป็นเรื่องสกินแคร์ จะนำเข้าจากอเมริกา เป็นของดิฉันเองหมดทุกอย่าง"

related