ลอยกระทงหลงทางปีนี้ ! เงินสะพัด 1.4 พันล้านต่ำสุดรอบ 5 ปี -โควิดพ่นพิษ
ลอยกระทงเป็นอีกหนึ่งบิ๊กอีเว้นท์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี แต่ปีนี้ 2563 หลายฝ่ายออกมาประเมินว่าอาจได้แค่เพียงตัวเลขนักท่องเที่ยว ส่วนรายได้อาจถดถอยเพราะคนไม่จับจ่าย เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบโควิด -19
ลอยกระทงปีนี้ มีคู่ไปลอยกระทงกันยังเอ่ย? ใครที่ไม่มีคู่ก็ไปกับเพื่อนๆก็สนุกไปอีกแบบนะ 1ปีมีครั้งเดียวสำหรับประเพณีลอยกระทง ปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563 หลายคนเตรียมตัวออกมาลอยทุกข์ความโศกให้ไหลไปกับสายน้ำที่ไม่มีวันไหลกลับ บางคนลอยเพื่อขอขมาพระแม่คงคาที่ให้เราได้ ใช้ ดื่มกิน แต่หากมองในมิติของการท่องเที่ยวแล้วก็ลอยกระทงถือว่าเป็นบิ๊กอีเว้นท์ใหญ่กระตุ้นท่องเที่ยวส่งท้ายปีก็ว่าได้ เพราะงานนี้เป็นที่รู้จักของต่างชาติทั่วโลกกล่าวขานขนานนามนอกจากสงกรานต์แล้วต้องลอยกระทงเท่านั้น
ส่วนนักท่องเที่ยวไทยในประเทศก็ไม่น้อยหน้าต่างชาติเช่นกันออกมาท่องเที่ยวคืนลอยกระทงกันอย่างสนุกสนาน บางพื้นที่ก็จัดกันหลายคืน มีการนำสินค้ามาวางขายสร้างรายได้เป็นอย่างดีในช่วงนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมีเม็ดเงินหมุนเวียน หลายพื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าสนุกสนานกันไปตามท้องเรื่อง
แต่จะว่าไปแล้วลอยกระทงปีนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่จะคึกคักเหมือนทุกปีหรือไม่ ? อันนี้ตอบยาก และต้องติดตามชมตอนต่อไป เพราะทั้งโควิด-19 ที่พ่นพิษใส่ทุกประเทศอย่างหนักทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมาเที่ยวช่วงลอยกระทงก็ไม่สามารถเข้าประเทศได้
ส่วนนักท่องเที่ยวในประเทศเองก็อาจจะได้ในส่วนของปริมาณจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากคนอึดอัดจากโควิด-19 ที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานานเลยอยากออกมาท่องเที่ยว ซึ่งจะไปเที่ยวนอกประเทศก็เห็นทีจะลำบาก เลยต้องเที่ยวในประเทศแทน ด้วยรายได้ที่หดหาย ค้าขายที่หดตัว คนตกงาน บริษัท ร้านค้า ปิดตัวเพียบ กำลังซื้อคนที่จะเที่ยวลอยกระทงก็คงแผ่วตาม จึงทำให้หลายฝ่ายออกมาคาดการณ์ว่าลอยกระทงปี 2563 รายได้จะลดลงต่ำสุดในรอบหลายปี
วันนี้ “สปริงนิวส์ออนไลน์” จะรวบรวมสถิตินักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ รายได้ที่สะพัดในวันลอยกระทงในแต่ละปีมาให้ดูโดยอ้างอิงข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 5 ปีย้อนหลังว่าจะเป็นอย่างไรปีไหนปังสุด จะมาเล่าให้ฟัง
เริ่มจากปี 2558 กันก่อนปีนี้จัดงานใหญ่กันถึง 7 จุดสำคัญทั่วประเทศ ส่วนใหญ่คือพื้นที่ กทม. สุโขทัย อยุธยา ตาก เชียงใหม่ สมุทรสงคราม สงขลา นอกจากนี้ยังมีตามจุดเล็ก ๆ อีกมากมายทั่วประเทศ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวไทย เดินทางท่องเที่ยวกันถึง 1 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท
ต่อมา ปี 2559 ปีนี้ หลายพื้นที่ยกเลิกจัดงานรื่นเริงเพื่อไว้ทุกข์ ซึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยว 4.6 แสนคน รายได้ 2,000 ล้านบาท ถัดมาคือปี 2560 ปีนี้ก็มีการจัดงานใหญ่ถึง 7 พื้นที่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยว 1.1 ล้านคน เงินสะพัด 3,800 ล้านบาท
ส่วนปี 2561 ปีนี้จัดใหญ่ไฟกระพริบ 9 พื้นที่สำคัญทั่วประเทศ มีนักท่องเที่ยว 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 2,800 ล้านบาท ต่อมาคือ ปี 2562 ปีนี้ก็จัดงานใหญ่ถึง 7 จุด แต่นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวไม่มากนัก แค่ 4.6 แสนคน รายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าปัจจัยลบน่าจะมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้คนไม่มีกำลังจับจ่ายท่องเที่ยว ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป
ปิดท้ายกันที่ปี 2563 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 หลายฝ่ายหมายหมั้นปั้นมือไว้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นพระเอกในการพยุงเศรษฐกิจไทยให้ไปรอด แต่ด้วยเงินในกระเป๋าของผู้คนที่มีไม่มาก หลังโดนโควิด-19 ฟาดหางใส่เต็ม ๆ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวเพียง 1 ล้านคน รายได้ 1,400 ล้านบาท จากข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาจะเห็นได้ว่า ปี 2563 คือปีที่จำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี
