เมเจอร์ เผย 5 มาตรการป้องกันโควิด-19 หลังโรงหนังได้รับการปลดล็อกในเฟส 3

29 ก.ค. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้แถลงเกี่ยวกับการกำหนดกิจกรรมและกิจการ ที่สามารถดำเนินได้ในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3

โดยโรงภาพยนตร์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่รับการปลดล็อกในเฟสนี้ อนุญาตให้เปิดโรงภาพยนตร์ได้ แต่ต้องเว้นระยะห่าง นั่งไม่เกิน 200 คน สามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอภิชาติ คงชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึง 5 มาตรการป้องกันโควิด-19 ระดับคุมเข้มว่า

“ทางเมเจอร์ มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว และมีการคิดแผนปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับภาวะของ New Normal โดยมีแผนดำเนินการ 5 มาตรการหลัก และก็มีมาตรการย่อยต่างๆ อีกมากมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ”

ซึ่ง 5 มาตรการหลักดังกล่าว ประกอบด้วย

1. Screening การตรวจคัดกรองลูกค้าทุกคน ด้วยการวัดอุณหภูมิ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้าง ทำความสะอาดมือ ด้วยเจลแอลกอฮอลล์ก่อนเข้าใช้บริการ

2. Social Distancing การเว้นระยะห่างทางสังคม ตั้งแต่การเข้าแถวรอคิวทุกจุดที่เข้าใช้บริการ ในระยะห่าง 1 เมตร มีฉากกั้นระหว่างพนักงานและลูกค้าทุกจุดเคาน์เตอร์บริการ

ที่สำคัญภายในโรงภาพยนตร์ มีการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง ทุก 2 ที่นั่ง ในแถวเดียวกัน และแถวเว้นแถว โดยจัดที่นั่งระหว่างแถวแบบสลับฟันปลา

3. Cleaning การทำความสะอาดทุกจุดพื้นที่และภายในโรงภาพยนร์ ก่อนภาพยนตร์เข้าฉายแต่ละรอบ

4. Cashless เลี่ยงการแพร่เชื้อด้วยการลดการสัมผัส การใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสด ทั้งการซื้อตั๋วหนัง ป๊อปคอร์น และเครื่องดื่ม

5. Tracking การติดตามและตรวจสอบได้ ทุกโรงจะมีการเช็คอิน-เช็คเอาท์ เพื่อความสะดวกในการติดตามกรณีพบผู้ป่วย

ส่วนมาตรการจูงใจให้ผู้ชมมาใช้บริการนั้น นายอภิชาติกล่าวว่า ทางเมเจอร์จะเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ความบันเทิง ด้วยการให้บริการในระบบดิจิทัลที่ทันสมัย ด้วยอุปกรณ์ที่ดีที่สุด ส่วนที่นั่งในโรงภาพยนต์ก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้มีระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

“นี่คือสิ่งที่เรามองว่า มันคือ New Normal ที่จะตอบโจทย์ลูกค้า ในปัจจุบันและอนาคต” นายอภิชาติ กล่าว

และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้โรงภาพยนตร์ต้องปิดมาเป็นเวลา 2 เดือน จะส่งผลกับพฤติกรรมผู้ชมให้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่นั้น

นายอภิชาติได้แสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ไม่น่าจะส่งผลกับกลุ่มผู้ชม แต่ปัญหาที่จะทำให้ผู้ชมไม่เข้าโรงหนัง ก็คือตัวภาพยนตร์เองว่า มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจหรือไม่ และมั่นใจว่า การได้ชมภาพยนตร์ที่สดใหม่ในโรงภาพยนตร์ และยังคงเป็นความบันเทิงที่ได้รับความนิยมต่อไป