นักเรียนหญิงชั้นม.3 พร้อมน้องสาว ไปเสียค่าปรับจราจรบนสถานีตำรวจภูธรสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่กลับถูกตำรวจชุดเครื่องแบบครึ่งท่อนลากขึ้นไปชั้น 2 ก่อนโอบกอดเอวและขอจับอวัยวะเพศ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความเตือนภัย โดยระบุว่า โพสต์นี้มาเตือนภัยผู้หญิงนะคะ! พร้อมเหตุการณ์ในลักษณะว่า วันนี้จะไปจ่ายค่าปรับที่ไม่ได้สวมหมวกกันน๊อกที่โรงพัก หรือสภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 11 โมง ไปกับน้องสาว ได้ถามตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบครึ่งท่อนและมีอาการลักษณะคล้ายคนเมาใช้มือโอบเอว แล้วลากขึ้นไปชั้น 2 เข้าไปในห้องที่เสียค่าปรับ ก่อนที่จะมีการสอบถามพูดคุยกัน แล้วตำรวจได้ขอจับอวัยวะเพศ ซึ่งหลังจากข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ออกไปทำให้โลกโซลเชียลมีการแชร์และเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก เพราะหลายคนมองว่าโรงพักเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลับไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ล่าสุดเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งพบกับนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี และนางบี อายุ 67 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นตากับยาย ชาวบ้านใน ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พาหลานสาวสองคน อายุ 16 ปี และอายุ 14 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กัมปนาท อรรถวิลัย ร้อยเวร สภ.สหัสขันธ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจของสภ.สหัสขันธ์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบยศและตำแหน่ง หลังจากหลานสาวคนโตอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นม.3 ที่กำลังจะขึ้นม.4 ได้มาจ่ายค่าปรับเมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา แต่กลับถูกตำรวจคนดังกล่าวโอบกอดเอวไว้และลากตัวขึ้นไปบนชั้นสองของโรงพัก ก่อนจะขอจับอวัยวะเพศ
นางสาวซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา ตนพร้อมกับน้องสาว ได้เดินทางมาจ่ายค่าปรับที่โรงพักสหัสขันธ์ในข้อหาไม่สวมกันน็อก โดยได้เดินเข้าไปสอบถามตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งสวมชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน สภาพคล้ายกับคนเมาสุรา อยู่ที่ชั้นล่าง ว่าไปจ่ายค่าปรับได้ตรงไหน ซึ่งตำรวจคนนี้ก็บอกว่าเสียค่าปรับอยู่ที่ชั้น 2 แต่วันนี้เป็นวันหยุด ตนจึงกำลังจะกลับออกจากโรงพัก แล้วมาเสียค่าปรับใหม่วันหลัง แต่อยู่ๆตำรวจคนนี้กลับเดินมาโอบกอดเอวของตนไว้แล้วพาตัวขึ้นไปชั้นสอง โดยมีน้องสาวเดินตามหลังมา พร้อมกับลากตัวเข้าไปในห้องเปรียบเทียบปรับ ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในห้อง ก่อนที่ตำรวจคนดังกล่าวจะยืนขวางประตูทางออกไว้ พร้อมกับขอจับอวัยวะเพศของตน ซึ่งขณะนั้นตนตกใจมากร้องไห้จนทำอะไรไม่ถูก จึงรวบรวมสติตัดสินใจรีบผลักประตูออกมา แล้วรีบพาน้องสาววิ่งลงบันไดไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ชั้นล่างว่าถูกตำรวจคนนี้ลวนลาม จากนั้นได้โทรศัพท์ไปหาตา และยาย และเล่าให้พี่ชายฟัง ก่อนจะพากันมาแจ้งความในครั้งนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นที่โรงพักได้
ด้านน้องสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเห็นเหตุการณ์โดยตลอด และตกใจอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าโรงพัก ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่กลับมามีพฤติกรรมในลักษณะนี้ จึงอยากให้ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ให้ความเป็นธรรม และดำเนินการอย่างถึงที่สุด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ญาติได้พาหลานผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่โรงพักนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามห้ามสื่อมวลชนไม่ให้ถ่ายภาพ พร้อมกับปิดประตูล็อกไม่ไห้เข้าไปข้างใน และไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.สหัสขันธ์ เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว โดยทางผกก.ระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งจะมีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จต่อไป