ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ 14 ราย และห้างค้าส่งค้าปลีก 8 ราย เพื่อขอความร่วมมือให้เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ ช่วงเหตุการณ์ไม่ปกติจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า 6 กลุ่มสินค้ารวม 72 รายการ จะปรับลดราคาลดลงตั้งแต่ 5-58% เริ่มดำเนินการทันทีไปจนถึง 30 มิ.ย. 2563
สำหรับสินค้าทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ข้าวสารบรรจุถุง น้ำมันปาล์ม ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กคัพนมถั่วเหลือง นมพร้อมดื่มยูเอชที เป็นต้น ลดราคาตั้งแต่ 5-50% 2.อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวไก่กระเทียม ข้าวผัดหมู ข้าวผัดกะเพรา เป็นต้น ลดราคาตั้งแต่ 31.03-37.50% 3.ซอสปรุงรส ลดราคาตั้งแต่ 7-37% 4.ของใช้ในชีวิตประจำวัน ลดราคาตั้งแต่ 8-50% เช่น กระดาษชำระ แป้ง ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ผ้าอนามัย เป็นต้น 5.ของใช้ชำระร่างกาย ลดราคาตั้งแต่ 6-58% เช่น สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู เป็นต้น และ 6.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ลดราคาตั้งแต่ 10-51% เช่น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ระบุว่า เหตุที่ลดราคาครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพผู้บริโภค ไม่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันขายปลีกที่ปรับลดลง โดยสอบถามกรมการค้าภายในทราบว่าต้นทุนสินค้าไม่ได้มีปัจจัยหลักมาจากน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่น้ำมันลดลง ส่งผลดีต่อต้นทุนค่าขนส่ง ส่วนต้นทุนการผลิตสินค้ามาจากค่าแรงและค่าวัตถุดิบเป็นหลัก ที่ผ่านมาในช่วงน้ำมันแพงได้ขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้า ดังนั้นการลดราคานี้จึงไม่ได้เกี่ยวกับราคาน้ำมัน ทั้งนี้ราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดลงมีผลต่อต้นทุนสินค้าแค่ 1-3% เท่านั้นโดยคาดว่าผลดีจากการลดราคาครั้งนี้จะช่วยลดค่าครองชีพเท่าไรขึ้นอยู่กับยอดขายและยอดบริโภค แต่จุดประสงค์หลักการลดราคาครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือประชาชน