ศาลไม่อนุญาตให้ "เปรมชัย" ถอดกำไลอีเอ็ม หลังอ้างรัดข้อเท้า หวั่นกระทบโรคเบาหวาน โดยศาลชี้ว่า ขาอับเสบอยู่คนละข้างกับขาที่ติดกำไล
ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.219/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.63/2562 เพิ่มโทษนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 จำคุก 2 ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญา นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และ นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท
นอกจากเพิ่มโทษแล้ว ศาลยังสั่งให้จำเลยทั้ง 4 คน สวมใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม เพื่อติดตามตัว โดยจำเลยทั้ง 4 จะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิในวันที่ 13 ม.ค.2563 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้(13ม.ค.) นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ แต่การเดินทางมาในวันนี้ไม่ได้มารายงานตัวตามที่ศาลนัดเอาไว้แต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คนข้างต้น ได้เดินทางมารายงานตัวก่อนล่วงหน้าแล้ว โดยการเดินทางมาของนายเปรมชัย ในวันนี้ก็เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิจารณาอนุญาตให้ถอดกำไลอีเอ็ม ออกจากข้อเท้าด้านขวา
โดยให้เหตุผลว่ากำไลอีเอ็ม ทำให้เกิดบาดแผลที่ข้อเท้า จึงหวั่นเกรงว่าจะมีอันตรายเนื่องจากนายเปรมชัย ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ใช้ดุลยพินิจแล้ว เห็นว่าแผลนั้นเกิดขึ้นที่ข้อเท้าซ้าย ไม่เกี่ยวข้องกับกำไลอีเอ็ม ที่สวมเอาไว้ที่ข้อเท้าด้านขวา
ดังนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ จึงไม่อนุญาตให้ถอดกำไลอีเอ็ม ซึ่งการพิจารณาของศาลใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็แล้วเสร็จ จากนั้นนายเปรมชัย เดินทางกลับ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสุขภาพของนายเปรมชัยว่า อาการเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายเปรมชัย ได้ตอบเพียงสั้นๆว่า “ก็เรื่อยๆ”