กองปราบฯร่วมสืบชะอำ และสืบภาค 7 ตามรวบมือมีดแทงวัยรุ่นวันเกณฑ์ทหาร
3 ส.ค.2562 ตำรวจภายใต้การอำนวยการ และสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.,พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.ภคินศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.พรม แก้วพรายตา สว.สส.สภ.ชะอำ,พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 ร่วมกันจับกุม นายชาตรี หรือตุ๊ก พรมวรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/1 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองจ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 119 / 2562 ลงวันที่ 7 เมษายน 2562 ข้อหา“พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” สถานที่จับกุม ริมถนนหน้าบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมแฟคเตอรี่แลนด์วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเมื่อประมาณต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายชาตรี ทำงานอยู่ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชนกับนายอินทรเดช เผือกเงิน อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเข้ามารับเลือกเกณฑ์ทหารที่ อ.ชะอำ ด้วยความที่เป็นคนใจร้อนทำให้มีปากเสียงกันโดยนายอินทรเดช ได้ตะโกนให้ของลับแก่นายชาตรี และมีการใช้กำลังเข้าชกต่อยกัน
นายชาตรี สู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดทีตนเองพกติดตัวมาความยาวประมาณ 4 นิ้ว จ้วงแทงนายอินทรเดช ในระยะประชิดตัวเข้าที่บริเวณชายโครง 1 แผล และพยายามจะแทงซ้ำ แต่เพื่อนของนายอินทรเดช วิ่งเข้ามาช่วยไว้ทัน ผู้ต้องหาจึงขับรถหลบหนีไป
จากนั้นผู้เสียหายได้พยายามขับรถออกจากที่เกิดเหตุ แต่เกิดอาการช็อก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชะอำ แพทย์โรงพยาบาลตรวจสอบพบว่า บาดแผลถูกแทง ทะลุปอด ถูกกระบังลม และม้ามแตก มีเลือดคั่งภายในประมาณครึ่งลิตร จากนั้น ส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี หากผู้เสียหายเข้ารับการรักษาไม่ทันท่วงทีอาจถึงแก่ชีวิตได้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบภาพจากกล้องวงจรปิดและทำการสืบสวนจนทราบว่านายชาตรี หรือตุ๊ก พรมวรรณ อายุ 27 ปี ป็นผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว และได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับนายชาตรี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่านายชาตรี หลบหนีการจับกุมมาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมแฟคเตอร์รี่แลนด์วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาอยุธยา
ต่อมา ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ชะอำและเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 7 ตรวจสอบบริเวณในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวตามที่ได้รับรายงานปรากฏว่าพบ นายชาตรี เดินอยู่ที่บริเวณหน้าบริษัท จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบวิ่งหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าล็อคตัวนายชาตรี ได้ทันจึงสามารถจับกุมตัวไว้ได้
สอบถาม นายชาตรี ยอมรับว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากคู่กรณีตะโกนให้ของลับตนเองก่อนและตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ยอมคน จึงได้ตามไปเอาเรื่องเกิดการชกต่อยกันขึ้น ตนเองสู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดที่ตนเองพกติดตัวเป็นประจำแทงไปที่ลำตัวคนเจ็บจำนวน 2 ครั้งแล้วหลบหนีไป