"KFC" เล็งใช้ "โปรตีนจากพืช" เพิ่มเป็นทางเลือกแทน "ไก่"

ตอนนี้เทรนด์การบริโภค โปรตีนจากพืช กำลังได้รับความนิยมอย่างมากเพราะผู้คนหันมาใส่ใจกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดูแลสุขภาพตนเองมากยิ่งขึ้น รวมถึงกระแสการบริโภคอาหารที่ผลิตจากพืชล้วนทดแทนเนื้อสัตว์ด้วย เพราะการปศุสัตว์ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นการบริโภคโปรตีนจากพืชจึงถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทางแบรนด์ ไก่ทอดเคนตั๊กกี้ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า เคเอฟซี จึงกำลังให้ความสนใจกับ โปรตีนจากพืช ด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้หลายร้านฟาสต์ฟู้ดได้เริ่มใช้เนื้อที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์เป็นทางเลือกแทนเนื้อวัวหรือไส้กรอกกันแล้ว และทาง เคเอฟซี ก็มีแผนที่จะทดลองออกเมนูที่ทำจาก โปรตีนจากพืช ด้วย

ในขณะที่ตลาดอาหาร โปรตีนจากพืช ก็กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยภายในปี 2023 คาดว่าตลาดดังกล่าวในสหรัฐจะเติบโตจนแตะที่ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีก่อนที่ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจากราว 18,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ไปเป็น 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023

ร้านเบอร์เกอร์หลายแห่งก็เริ่มที่จะนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์เนื้อที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์กันแล้ว อย่างเช่น เบอร์เกอร์คิง ที่ในปีนี้ออกวางขายเมนู วอปเปอร์ ที่ไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ทำ ส่วนเจ้าอื่นๆอย่าง แบร์เบอร์เกอร์, ไวท์แคสเซิ่ล และคาร์ลส์จูเนียร์ ก็ออกเมนูเบอร์เกอร์ที่ไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ทำเช่นกัน นอกจากนี้พวกร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอื่นๆอย่าง อาหารเม็กซิกันหรือพิซซ่า ก็เริ่มนำผลิตภัณฑ์ทดแทนจากพืชมาทดลองใช้ทำอาหารแทนเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เคเอฟซี ยังไม่มีแผนที่จะเริ่มใช้ โปรตีนจากพืช ในตอนนี้ แต่กำลังเฝ้าจับตาดูเทรนด์อย่างใกล้ชิดและขอใช้เวลาศึกษาอย่างจริงจังก่อน