“ไทยเบฟ” คว้าสิทธิ์บริหาร “สตาร์บัคส์ไทย” คาดมูลค่ากว่า 1.57 หมื่นล้าน

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งดีลสะเทือนวงการกาแฟไทยไปแล้ว สำหรับรายงานการเข้าบริหารงาน “สตาร์บัคส์ประเทศไทย” ของ “Coffee Concepts Thailand” ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง  F&N Retail Connection Co. ซึ่งเป็นบริษัทที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ และ Maxim’s Caterers Limited  บริษัทผู้รับสิทธิ์ดูแลร้าน Starbucks ใน กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกงและมาเก๊า มีสาขามากกว่า 400 สาขา โดยคาดการณ์ว่าดีลนี้จะเจรจาสำเร็จภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

สำหรับการเข้าบริหารสิทธิ์ดังกล่าวของ Coffee Concepts Thailand ไม่มีรายงานตัวเลขดีลอย่างเป็นทางการว่ามีมูลค่าเท่าไร แต่สำนักข่าว Bloomberg คาดว่าดีลนี้จะอยู่ประมาณ 15,725 ล้านบาท หลังจากในปีที่ผ่านมา Starbucks เริ่มขายสิทธิ์ดูแลในแต่ละประเทศให้กับผู้ที่สนใจได้เข้าบริหารงาน ทั้งในทวีปยุโรป เช่น ในประเทศฝรั่งเศส และช่วงก่อนหน้านั้นในฮ่องกง ที่ Maxim’s Caterers Limited ได้สิทธิ์ไป รวมไปถึงไต้หวัน

 

อย่างไรก็ตาม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท แม็กซ์เอเชียฟู้ดแอนด์เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คอฟฟี่คอนเซปต์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไทยเบฟเวอเรจ ขอประกาศการรวมกิจการของ บริษัท ร่วมทุนใหม่สองแห่งต่อไปนี้ระหว่าง  MX Caterers (Asia) Pte. Ltd. จำกัด (“ MXCA”) ซึ่งเป็น บริษัท บุคคลภายนอกที่ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งและจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์และ บริษัท เอฟแอนด์เอ็นรีเทลคอนเน็คชั่น จำกัด (“ FNRC”) ซึ่งเป็น บริษัท ร่วมทุนซึ่งจัดตั้งและจดทะเบียนในประเทศไทย บริษัท เพื่อการจัดการการลงทุนในวัตถุประสงค์ทางธุรกิจเครื่องดื่ม

 

สำหรับบริษัท แม็กซ์เอเซียฟู้ดแอนด์เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด (“ MAFB”) เป็น บริษัท ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย FNRC ถือหุ้น MAFB 70% ในขณะที่ MXCA และ Coffee Concepts (ฮ่องกง) จำกัด (“ CCHK”) ตามลำดับถือหุ้นประมาณ 29.9995% และ 0.0005% MAFB มีทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาทประกอบด้วยหุ้นสามัญ 200,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ส่วนบริษัท คอฟฟี่คอนเซปต์ (ประเทศไทย) จำกัด (“ CCT”) เป็น บริษัท ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย MAFB ถือหุ้น 51% ใน CCT ในขณะที่ MXCA และ CCHK ตามลำดับถือประมาณ 48.999% และ 0.001% ใน CCT CCT มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาทแบ่งออกเป็น 100,000 หุ้นสามัญมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

ทั้งนี้เงินลงทุนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนผ่านกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใน และคาดว่าจะไม่มีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่อผลกำไรต่อหุ้นและสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของ ไทยเบฟสำหรับปีงบการเงินนี้

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ