หัวหน้าวิเชียร ข้องใจ เจ้าสัวเปรมชัย โทษน้อย เล็งอุทธรณ์เอาผิดเพิ่ม ด้านอัยการเตรียมยื่นอุทธรณ์ในประเด็นร่วมกันล่าสัตว์ป่าไม่ใช่การสนับสนุน ด้าน ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร แนะจับตาทีมกฎหมายใช้เทคนิคเหลือโทษรอลงอาญา
ที่สมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการ เสวนา "1 ปี คดีเสือดำกับคำตัดสินที่รอคอย" โดยมี นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร, นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ และ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมเสวนา
โดย นายวิเชียร กล่าวตอนหนึ่งถึงผลการตัดสินคดี ว่า เคารพในการตัดสินของศาลชั้นต้น แต่มองว่าจากพยานหลักฐาน นายเปรมชัยควรได้รับโทษมากกว่านี้ โดยเฉพาะการครอบครองซากสัตว์ป่า หรือ เสือดำ ที่ถูกยกฟ้องไป
เบื้องต้นจากการหารือกับอัยการและนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าชุดพญาเสือ เห็นตรงกันว่าจะยื่นอุทธรณ์ในคดีต่อไป แต่ต้องรอศึกษารายละเอียดของสำนวนคดีฉบับเต็มที่ศาลชั้นต้นพิพากษาก่อน
อัยการยันอุทธรณ์เปรมชัยร่วมล่าเสือดำไม่ใช่สนับสนุน
ด้านนายโกศลวัฒน์ ระบุว่า กระบวนการต่อจากนี้ อัยการจะไปคัดลอกสำเนาคำพิพากษาฉบับเต็มมาศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ศาลชั้นต้นได้รับฟังพยานหลักฐานอย่างไรบ้าง ก่อนจะพิจารณายื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ ภายในเวลา 30 วัน
โดยประเด็นที่จะยื่นอุทธรณ์ คือ หากศาลไม่ได้เห็นตามที่อัยการส่งฟ้องในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า ซึ่งหากในคำพิพากษาระบุว่าร่วมสนับสนุน อัยการก็จะอุทธรณ์ในประเด็นนี้
ศศินแนะจับตามทีมทนายเปรมชัยเป่าโทษจำคุกเป็นรอลงอาญา
ขณะที่ นายศศิน ระบุว่า ก่อนหน้ามีการคาดการณ์ว่า นายเปรมชัย จะถูกลงโทษในฐานะตัวการ แต่เมื่อมีผลพิพากษาออกมา ตนก็ไม่โทษศาล เพราะศาลก็ตัดสินไปตามพยานหลักฐานที่ได้มาจากทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งนี้แม้คำพิพากษาจะระบุว่า นายเปรมชัย เป็นผู้สนับสนุนให้มีการล่าสัตว์ แต่ผู้รู้ทางกฎหมายระบุว่า ก็ยังไม่พ้นจากมาตราใน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า คือยังถือว่าล่าสัตว์ป่า
แต่เมื่อเทียบความผิดระหว่างการล่า กับสนับสนุนการล่า จึงทำให้นายเปรมชัย โทษน้อยกว่านายธานี ที่เป็นนายพราน นายเปรมชัยน้อยกว่านายธานี
อย่างไรก็ตาม มองว่า กรณีคำพิพากษาของศาลที่ จำคุกไม่รอลงอาญา ตนมองว่า หากไปเจอกันที่อุทธรณ์ โทษ 16 เดือนของนายเปรมชัยก็จะติดไปด้วย แต่ถ้าอัยการและ กรมอุทยานฯไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม
ผู้สันทัดกรณีทางกฎหมายมีความกังวลา โทษจำคุก 16 เดือนของนายเปรมชัยจะค่อยๆ ลดลง หรือไม่ ถ้าฝ่ายทีมกฎหมายของนายเปรมชัย เก่งมากๆ จนสามารถใส่ข้อมูลไปว่า นายเปรมชัยไม่เกี่ยว ทำความผิดครั้งแรก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดเจตนา และอีกสารพัด ตนจึงเดาว่าโทษของนายเปรมชัย น่าจะอยู่ที่รอลงอาญา คือ มองไปที่การรับโทษ นายเปรมชัยผิดแน่นอน แต่จะรอหรือไม่รอลงอาญาที่อุทธรณ์หรือฎีกาก็ต้องตั้งธงไว้ตรงนั้น