ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา ยืนยัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เร่งให้คืนพื้นที่ตามสัญญาเช่า โดยทาง กรมพลศึกษา เตรียมขอผ่อนผันเวลาสร้างอาคารกีฬาทั้งหมดที่คลอง 6 ให้เสร็จก่อน
ตามที่กรมพลศึกษาได้ทำสัญญาเช่าที่ดินจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นที่ตั้งของกรมพลศึกษา ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2477
ล่าสุดทาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ให้เช่าได้ส่งสัญญาเช่าที่ดินให้กรมพลศึกษา ผู้เช่าเพื่อเป็นที่ทำการของกรมพลศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2561 บนเนื้อที่ 76 ไร่ 33.11 ตารางวา ในอัตราค่าเช่า 15,530,000 บาทว่า ขณะนี้ได้หมดสัญญาการเช่าที่ดินดังกล่าวแล้ว ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงขอพื้นที่คืนดังนี้ วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ขออาคารหอพัก (ส่งมอบแล้ว) ที่ติดกับรั้ว เอ็ม.บี.เค. , วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ขอพื้นที่สนามเทพหัสดิน, สนามวอร์ม 200 เมตร
โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563-1 ตุลาคม 2564 ได้ประกาศขอพื้นที่อาคารกีฬานิมิบุตร, สระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์, วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ขอคืนพื้นที่ที่เหลือทั้งหมด ก่อนหน้านี้กรมพลศึกษาได้คืนพื้นที่ที่อาคารจันทนยิ่งยง, ลานด้านหน้า, ด้านข้างอาคารจันทนยิ่งยง, ยิมเนเซียม 3 และสนามจินดารักษ์ ไปแล้ว สาเหตุที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอพื้นที่คืนก็เพื่อจะไปดำเนินการทำโครงการผังแม่บทจุฬาฯ ศตวรรษที่ 2 : เขตการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้าน ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ขอพื้นที่ตามสัญญาเช่าจากกรมพลศึกษานั้น ทางกรมพลศึกษา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมพูดคุยประชุมกันในวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางกรมพลศึกษาก็จะเจรจาต่อรองถึงความเป็นไปได้กับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเรื่องที่ได้มาขอคืนพื้นที่ทั้งหมดภายในปี 2565
ดร.ปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการย้ายที่ตั้งของกรมพลศึกษาไปอยู่ที่สนามเฉลิมกีฬาพระเกียรติ 60 พรรษาฯ คลอง 6 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีนั้น ยังอยู่ในช่วงของการเจรจาพูดคุยกัน เพราะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการย้ายพื้นที่ของสำนักงานด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทางกรมพลศึกษายินดีปฏิบัติตามเงื่อนไข เพียงแต่ขอว่าเงื่อนไขนั้นมีความเป็นไปได้ และมีความพร้อม
“กรมพลศึกษายินดีทำตามเงื่อนไขที่มีความเป็นไปได้ มีความเหมาะสม และมีความพร้อม ถ้าเรามีความพร้อมในการจะย้าย และสถานทีที่เราจะย้ายไปก็จะต้องมีความพร้อมในเรื่องพันธกิจต่างๆ ที่เราจะต้องดูแลพี่น้องประชาชน รวมทั้งเด็ก และเยาวชน ซึ่งถ้ามีควาพร้อมในส่วนนี้เราก็พร้อมยินดีที่จะขยับขยายครับ เพราะว่าเราเป็นหน่วยงานทางภาครัฐเราก็ต้องทำตามระเบียบของทางราชการในการดำเนินการต่างๆ” ดร.ปัญญา กล่าวปิดท้าย