แกนนำพันธมิตร 2 ราย ต้องขาดคุณสมบัติการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เนื่องจากถูกศาลฎีกาสั่งให้จำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ในคดีบุกยึดทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551
หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งจำคุก 6 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในคดีบุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551 ปรากฏว่าในจำนวนนั้นมีแกนนำ 2 คน ที่มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรค และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการประกาศรับรองไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา
ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ลำดับที่ 7 อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 98(6) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42(8) ได้กำหนดลักษณะต้องห้ามของบุคคลห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ไว้ว่า ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
ดังนั้น เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาดังกล่าว จึงทำให้บุคคลทั้ง 2 ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งขณะนี้ในส่วนของกกต.กำลังมีการพิจารณาที่จะประกาศถอนชื่อนายสมศักดิ์ ออกจากบัญชีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เนื่องจากกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ กกต.ไปยื่นต่อศาล
ส่วนที่นายสมศักดิ์ และนายสุริยะใส มีชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ กกต.ยังไม่ได้มีการประกาศรับรองบัญชีรายชื่อผู้สมัครในแบบบัญชีรายชื่อ ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า เมื่อ กกต.ได้คำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวมาเป็นหลักฐานยืนยัน ก็จะไม่ประกาศรายชื่อของบุคคลทั้งสองเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ