อาถรรพ์เลข 13 อีกเหตุการณ์ในประเทศไทยที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ย้อนรำลึกโศกนาฏกรรมเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เมื่อวันศุกร์ที่13 สิงหาคม 2536 “โรงแรมรอยัลพลาซ่า” โรงแรมครบวงจรที่มีสถานบันเทิงครบครัน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จังหวัดนครราชสีมา ถล่มลงมาทั้งตึก คร่าชีวิตคนไปถึง 137 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก
[caption id="attachment_325603" align="alignnone" width="840"]
“โรงแรมรอยัลพลาซ่า” ถล่ม กลายเป็นเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ชาวนครราชสีมาต้องจดจำถึงทุกวันนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 หรือเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เมื่ออาคารอาคาร "โรงแรมรอยัลพลาซ่า" ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีสถานบันเทิงครบครัน อาทิ อาบอบนวด คาเฟ่ เอ็กเซ็คคิวทีฟผับ เลเซอร์เธค บาร์เบอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น ตั้งอยู่ระหว่างถนนจอมสุรางค์ และถนนโพธิ์กลาง ที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง กลางเมืองโคราช ถล่มลงมา เมื่อเวลา 10.12 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 137 คน บาดเจ็บ 227 คน
ขณะเกิดเหตุมีการอบรมสัมมนา มีผู้อยู่ในอาคารทั้งหมดกว่า 400 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 47 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไปที่พักอยู่ในโรงแรมและพนักงานโรงแรม เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานร่วมค้นหาผู้รอดชีวิต แต่ขณะนั้นการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีผู้ประสบเหตุจำนวนมากและไม่มีเครื่องมือหนักในการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ต้องคลานเข้าไปใต้ซากอาคารที่อาจถล่มซ้ำลงมาได้ทุกเมื่อ ซึ่งการระดมความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
[caption id="attachment_325605" align="alignnone" width="840"]
สาเหตุของตึก"โรงแรมรอยัลพลาซ่า" ถล่ม เกิดจากการดัดแปลงต่อเติมโครงสร้างอาคาร จาก 3 ชั้นเป็นอาคาร 6 ชั้น พร้อมห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่อยู่ชั้น 6 ทำให้เสารับน้ำหนักตัวอาคารไม่ไหว อีกทั้งโครงสร้างเสายังไม่ได้เชื่อมยึดติดกัน เมื่อเสาที่ตั้งอยู่บนคานแบกรับน้ำหนักมากเกินไป จึงทำให้คานหลุดออกจากหัวเสาที่ชั้น 2 ทำให้โครงสร้างอาคารบนหัวเสายุบตามและส่งแรงดึงรั้งกระทบเสาต้นข้างเคียงให้หักล้มตามมาในที่สุด และเหตุการณ์ภาพตึกกำลังถล่มลงมาเป็นเวลาเดียวกันที่ นายวิทยา วงศ์วัชรกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเดินทางมาถึงโรงแรมพอดีและเห็นภาพอาคารถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา
นอกจากโปรเจ็กต์ขยายตึกโรงแรมเป็น 6 ชั้นแล้ว ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทำอีกคือ ปรับปรุงคาเฟ่ ซึ่งเป็นแม่เหล็กสถานบันเทิงที่ทำรายได้ดีใหม่ทั้งหมด พร้อมกับจะสร้างอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ใช้งบสูงถึง 30 ล้าน สามารถจอดรถได้ 400 คัน และสุดท้ายเป็นการจัดงานใหญ่ ฉลองครบรอบ 10 ปี โรงแรมในเดือนพฤศจิกายน 2536 แต่เกิดเหตุการณ์โรงแรมถล่มในวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ก่อน
[caption id="attachment_325606" align="alignnone" width="517"]
เหตุการณ์ดังกล่าว กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก สำนักข่าวชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ นำเสนอข่าวนี้ตลอด 1 เดือนเต็ม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตและติดอยูในซากตึกจำนวนมาก
ทุกวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต นำโดยนายชวลิต ตันฑเศรณีวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่เสียขาทั้งสองข้างจากตึกถล่ม จะรวมตัวกัน ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เคราะห์ร้ายเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งวิญญาณผู้ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกทางหนึ่ง และยังเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอย่างไม่มีวันลืมเลือน
[caption id="attachment_325615" align="alignnone" width="840"]
ขณะที่การฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ได้สิ้นสุดลง เมื่อปลายปี 2543 โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายบำเพ็ญ พันธ์รัตนอิสระ วิศวกรควบคุมการก่อสร้าง จำเลยที่1 ส่วนผู้บริหารโรงแรมทั้งหมดพิพากษายกฟ้อง ด้วยเหตุผลจากคำพิพากษา เพราะผู้บริหารโรงแรมไม่มีความรู้เรื่องโครงสร้าง โดยได้ว่าจ้างวิศวกรคือ นายบำเพ็ญ ซึ่งมีความรู้มารับผิดชอบในการต่อเติมอาคารโรงแรม ดังนั้นผู้บริหารจึงไม่มีความผิด ศาลจึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนคดีแพ่ง การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิต ศาลได้พิพากษาให้ บริษัท รอยัลพลาซ่าโฮเตล จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด ทางโรงแรมได้ชดใช้เงินให้กับผู้เสียชีวิตรวม 5 ล้านบาท และเงินที่รับบริจาคอีก 5 แสนบาท เฉลี่ยแล้วผู้เสียชีวิต ญาติได้รับเงินรายละ 80,000 บาท และผู้พิการได้รับรายละ 50,000 บาท
เหตุการณ์ช็อกโลกที่นครราชสีมา ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์และเป็นคดีตัวอย่างให้กับผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ถึงการดำเนินการก่อสร้างอาคารและการอนุญาตแบบแปลนก่อสร้างอาคารที่ไม่ถูกต้องตามหลัก พรบ.ควบคุมอาคาร
[caption id="attachment_325609" align="alignnone" width="840"]